ปลุกเยาวชนมองรักมุมใหม่ แบ่งปันทำประโยชน์แก่สังคม
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
หนุนเยาวชนกว่า 150 ชีวิต มุ่งทำประโยชน์ให้สังคม ผ่านกิจกรรม "Valentine Volunteer : รักกัน ชวนกันทำดี ครั้งที่ 2
แม้เทศกาลแห่งความรักในเดือนกุมภาพันธ์จะผ่านไปแล้ว แต่การทำความดีของเยาวชนจำนวนกว่า 150 ชีวิต ในนามเครือข่ายเยาวชน ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ยังอยู่ในความทรงจำของพวกเขาทุกคน และถือเป็นแบบอย่างที่ช่วยสนับสนุนให้เยาวชนยุคใหม่มุ่งทำประโยชน์ให้สังคม ผ่านกิจกรรม "Valentine Volunteer : รักกัน ชวนกันทำดี ครั้งที่ 2 ที่ร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสา ทำความสะอาด ล้างห้องน้ำสวนสันติภาพ และก่อนหน้านี้ได้ร่วมกันทำกับข้าวมอบให้พนักงานดูแลสวนสาธารณะ คนกวาดถนน คนเก็บขยะ กทม.
"น้องตุ๊กกี้" นางสาวปาลิณี ต่างสี ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ อธิบายที่มาของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า สำหรับกิจกรรมรักกัน ชวนกันทำดี จัดขึ้นต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เพื่อปลุกกระแสเยาวชน มองความรักในมุมใหม่ แสดงความรักผ่านการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ไม่จำกัดเฉพาะแฟน แต่ควรแบ่งปันให้สังคม คนที่ด้อยโอกาส รวมถึงการสร้างค่านิยมเชิงบวก ไม่ยุ่งเกี่ยวอบายมุข ปัจจัยเสี่ยง และเห็นคุณค่าในตัวเอง
สำหรับกิจกรรมที่จัดอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กิจกรรม "ปันน้ำใจ ให้อิ่มท้อง แด่พี่น้องเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด กทม." โดยช่วยกันลงมือทำกับข้าวนำไปมอบให้กับพี่ๆ ที่รักษาความสะอาด เก็บขยะ กวาดถนน พร้อมเขียนการ์ดให้กำลังใจ เนื่องจากเห็นว่าเป็นอาชีพที่เสียสละ น่ายกย่อง มันเป็นช่วงเวลาที่คนอื่นนอนพักผ่อน แต่พี่ๆ ที่รักษาความสะอาดกลับต้องตื่นตี 3 ตี 4 มากวาดถนน เก็บขยะ และยังเสี่ยงต่อการถูกคนเมาขับรถชนด้วย และที่ผ่านมาเราจะมีกิจกรรม อาทิ กิจกรรม "มอบรักให้น้องน้อย ที่บ้านพักฉุกเฉินดอนเมือง" และกิจกรรม "อาสา รักกัน ชวนกันทำดี" วัดสวนแก้ว ช่วยกันทำความสะอาดวัด ล้างห้องน้ำ เป็นต้น
"ปลื้มใจที่ได้สร้างรอยยิ้มให้กับคนในสังคม และอยากให้สังคมหันมารักกัน ชวนกันทำความดี มาแบ่งปันให้คนที่ยังขาด มาทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่แค่รูปแบบของคู่รัก หรืออยู่แค่ เราอย่างเดียว แต่ควรนำความรักมาให้คนรอบข้าง สามารถชวนกลุ่มเพื่อน หรือคนในสังคมให้ออกมา ช่วยกันทำกิจกรรมที่ดีๆ แบบนี้ก็ถือว่ายิ่งใหญ่ แล้วอย่าลืมถ่ายเซลฟีลงโซเชียลมีเดียเพื่อปลุกกระแสนี้กันด้วย" นางสาวปาลิณีระบุทิ้งท้าย
"น้องพลอย" นางสาวชนน์ภคอร สวนแก้ว แกนนำเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา บอกว่า ความรักของวัยรุ่นเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ และมีโอกาสที่จะไหลไปกับปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามารุมเร้าและชักนำไปในทางที่ผิดได้ ทั้งเหล้า ยาเสพติด การพนัน และอื่นๆ คู่รักวัยรุ่นจำนวนมากที่พากันติดหล่มอบายมุขจนยากที่จะถอนตัว แต่ก็มีไม่น้อยที่ฝ่าข้ามมาได้ การฝึกตัวเองและทำให้คนที่เรารักตั้งมั่นที่จะใช้ชีวิตให้ห่างไกลจากอบายมุข ตลอดจนรู้จักคิดถึงคนอื่น มีความรักที่ไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน มองเห็นคนอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือ คนที่ทุกข์ยาก การช่วยเหลือแบ่งปันเป็นสิ่งที่ดีมาก เป็นบุญกุศล ทำแล้วสบายใจ ทำให้เรารู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน และมีความสุขได้จริงๆ
"น้องตั๊ก" นางสาววศิณี สนแสบ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่มาร่วมกิจกรรม ระบุว่า ได้รับรอยยิ้ม เสียงขอบคุณ สร้างกำลังใจให้เป็นอย่างมาก มันเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมแบ่งบันความสุข ความอิ่มท้อง ด้วยการทำกับข้าวไปมอบให้กับพี่ๆ พนักงานทำความสะอาด เพราะก่อนที่เราจะตื่นมามองถนนที่ไม่มีขยะ พี่ๆ เขาต้องตื่นก่อนเรา เก็บกวาดกว่าจะสะอาด
"อยากฝากว่าความรักมองได้หลายรูปแบบ ทั้งรักเพื่อน รักแฟน รักคนที่เราไม่รู้จักก็รักได้ ลองมาแบ่งบันความรักไปให้กับคนอื่น เยาวชนโตขึ้นทุกวัน หากทำให้ผู้ใหญ่เห็นว่าเราทำดีเพื่อสังคมได้ มันจะเป็นความสุขที่ล้นออกมาจากใจจริงๆ" นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยรามคำแหงกล่าว
ด้านนางสาวส้ม (นามสมมุติ) อดีตเยาวชนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (หญิง) บ้านปราณี เปิดใจถึงเรื่องราวความรักที่เคยก้าวพลาดว่า เคยมีประสบการณ์ความรักที่ขมขื่น ถูกอดีตแฟนทำร้ายร่างกาย ตบ ทุบตี ใช้ความรุนแรงมาตลอด วันไหนไม่พอใจก็ลงมือ กลายเป็นที่ระบายอารมณ์ ครอบครัว เพื่อน ญาติพี่น้อง ต้องเดือดร้อนเพราะอดีตแฟนตามมาราวี ชีวิตไม่เคยมีความสุข จะเลิกก็เลิกไม่ได้ เพราะโดนข่มขู่ หวาดระแวงไปหมด จนสุดท้ายความรักต้องพังลง เนื่องจากอดีตแฟนหนีตำรวจคดียาเสพติด ทำให้ตนต้องติดร่างแห ถูกตำรวจจับ ทั้งที่ยาเสพติดไม่ใช่ของเรา ถูกศาลตัดสินโทษ 3 ปี ครั้งนั้นเข็ดกับคำว่ารัก ปิดกั้นตัวเองไม่อยากมีความรักอีกเลย
"ชีวิตเปลี่ยนไป เพราะเมื่อพ้นโทษก็ได้มาเจอกับรักครั้งใหม่ เคยเป็นคนที่ก้าวพลาด ทำผิดมาเช่นเดียวกัน แต่เขากลับตัวได้ คิดใหม่ได้ มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอ ซึ่งเขามีอะไรที่เหมือนกับเรา ชอบร้องเพลงเหมือนกัน คอยช่วยเหลือ แบ่งปัน ให้เกียรติ ไม่ทำร้ายผู้หญิง ยอมรับในตัวตนของเรา เขาเข้ามาเติมเต็มชีวิตใหม่ เป็นคนใหม่ได้ก็เพราะเขา จึงอยากฝากถึงคู่รักหลายๆ คู่ว่ารักต้องมีสติ คนเราถ้าล้มก็สามารถลุกขึ้นมาเริ่มต้นในสิ่งใหม่ได้ และทำในสิ่งที่ดีมีประโยชน์กับสังคม ไม่ทำร้ายกัน และวาเลนไทน์นี้ตั้งใจจะชวนกันเป็นจิตอาสา ปรับเปลี่ยนวิธีคิดให้เผื่อแผ่ความรักไปยังคนอื่น" นางสาวส้มระบุ
ขณะที่ "น้องใบเตย" นางสาวชุติมา จิตรกร เครือข่ายบางกอกนี้ดีจัง บอกว่า ตนเองเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปที่อยู่ในชุมชนมีความเสี่ยง แต่โชคดีที่ไม่ได้เข้าไปอยู่ในวงจรที่ผิดๆ เป็นคนชอบทำกิจกรรม เริ่มจากที่ทำอะไรที่เราถนัดและชอบก่อน จากนั้นก็ขยายสู่งานเพื่อพัฒนาชุมชน เปิดบ้านสอนเด็กร้องรำทำเพลง ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ใช้งานศิลปะไปปรับเปลี่ยนพื้นที่ในชุมชนให้สร้างสรรค์น่าอยู่ และทำความสะอาดชุมชนเป็นประจำ จนแฟนได้เข้ามาซึมซับเห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำ รู้สึกว่าการได้ดูแลคนอื่น ดูแลเด็กๆ เป็นเรื่องที่ทำแล้วสบายใจ เราก็ไปกันได้ด้วยดี
"เขาไปกับเราทุกที่ ช่วยสนับสนุน จัดสถานที่ หาสิ่งที่ขาดเข้ามาเติมเต็ม จนสามารถสอนน้องๆ ได้ถึง 2 รุ่น ตอนนี้เราสองคนมีมากกว่าคำว่ารัก แต่เป็นการดูแล ให้เกียรติ ทำความดีอะไรก็ได้ที่ใกล้ๆ ตัว แล้วสามารถไปสร้างสิ่งดีๆ ให้คนอื่นได้ มันจะกลายเป็นความรักที่สวยงาม และรักจะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง" เครือข่ายบางกอกนี้ดีจังกล่าวปิดท้าย
เห็นความรักในหลายรูปแบบของเยาวชนตัวอย่างเหล่านี้แล้ว จะเห็นว่าความรักที่ดี คือไม่ทำให้ตัวเองและผู้อื่นเดือดร้อน แต่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นพลังที่มุ่งทำประโยชน์แก่ส่วนรวม