ปลอดยาเสพติด…ชีวิตก็ปลอดทุกข์
สร้างสุขสู่สังคม เริ่มต้นได้ที่ตัวเรา
ขณะนี้การเมืองระดับท้องถิ่นใน กทม. กำลังเข้มข้น อยู่ในระหว่างหาเสียงของผู้สมัครแข่งกันเป็นผู้ว่าราชการ นโยบายของทุกคนทุกเบอร์ที่ลงสมัครแข่งขันอาสาเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ กทม.มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ให้คน กทม.มีความสุขความเจริญ แต่นโยบาย การหาเสียงแตกต่างกัน
ถึงจะสรุปเป้าหมายของนโยบายคือความสุขให้เกิดกับคน กทม. ทุกเพศทุกวัยทกอาชีพมีรายได้ ไม่หมกมุ่นอยู่ในอบายมุขทุกประเภท หรือผู้ที่เมื่อได้มาเป็นผู้ว่าฯ แล้วกำจัดอบายมุขให้หมดไปจาก กทม.คนก็จะมีความสุข
บางผู้สมัครมีนโยบายว่า การศึกษาจะทำให้คน กทม. มีความสุขอย่างยั่งยืน บางผู้สมัครมีนโยบายให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถค้าขายตามจุดที่ได้รับอนุญาตได้ทุกวัน บางผู้สมัครเน้นจะทำให้สังคม กทม. ปลอดยาเสพติด
พูดถึงยาเสพติด ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหลักของชาติบ้านเมืองทีเดียวไม่เฉพาะใน กทม.เพียงแต่เป็นไปได้ว่า กทม. อาจเป็นแหล่งใหญ่ รัฐบาลทุกรัฐบาลล้วนมีนโยบายปราบปราม เพื่อให้สังคมไทยปลอดยาเสพติด เพราะเป็นที่รู้กันอยู่เต็มอกว่ายาเสพติดทำลายคนทำลายสังคม
มีการจัดตั้งองค์กรที่คอยป้องกันปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะ กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการป้องกันและปราบปราม แต่ก็มีบทบาทคอยดูแลระมัดระวังช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย ทุกส่วนย่อยขององค์การบริหาร มีบทบาทในการช่วยผ่อนปรนภาระรัฐบาลในการดูแลป้องกันกำจัดยาเสพติด อย่างเช่น หมู่บ้าน อบต. อบจ. จังหวัด มีหลายต่อหลายจังหวัดยืดอกประกาศว่าปลอดยาเสพติด นั่นหมายถึงว่า ทุกส่วนย่อยของการบริหารจัดการดูแลประชาชนให้ห่างไกลยาเสพติดและปลอดยาเสพติดดังกล่าว สามารถประกาศเป็นจังหวัดปลอดยาเสพติดได้อย่างหน้าชื่นตาบาน
นั่นย่อมหมายถึงว่า ประชาชนในจังหวัดนั้นๆ ย่อมมีความสุขได้ในระดับหนึ่ง
ถ้าทุกจังหวัดของประเทศไทยประกาศพร้อมกันว่าปลอดยาเสพติด ก็ย่อมหมายถึงว่า ไทยทั้งประเทศมีความสุขส่วนหนึ่งกันถ้วนหน้า
เพื่อให้แน่นอนว่าประชาชนคนไทยทั้งประเทศจะต้องปลอดยาเสพติดและมีความสุขจริง จึงได้มีการจัดตั้งองค์กรมาช่วยชี้ชวนให้เห็นโทษของการข้องแวะหรือเสพยาเสพติด และชี้ให้เห็นคุณของการเลิกและห่างไกลยาเสพติด นั่นก็คือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
สูบบุหรี่ สสส. ก็ช่วยเป็นกำลังทุกภาคส่วนบอกประชาชนว่ามีแต่โทษไม่มีคุณเลย โทษตั้งแต่เสียเงิน ทำลายสุขภาพตัวเอง คนข้างเคียง นั่นคือ โรคถุงลมโป่งพอง ยาบ้าก็มีแต่โทษ รวมไปถึงเหล้า สสส. ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เห็นความจริงว่า เสียเงินก่อนเป็นเบื้องแรก เงินก้อนนี้มีผลต่อครอบครัวที่อาจจะอดอยากหิวโหยได้
กินเหล้าเมาแล้วไม่มีสติย่อมก่อเหตุต่างๆ เช่น อุบัติเหตุทรัพย์สินเสียหาย พิการ เสียชีวิต ครอบครัวเดือดร้อน ตรงกันข้ามไม่กินเหล้าก็มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว ร่างกายแข็งแรงสมองสดใส ทำงานเต็มที่ ได้เงินเพิ่มยิ่งขยันยิ่งเพิ่ม มีเงินเก็บ ครอบครัวมีความสุข
สสส. ไม่ได้หยุดแค่นั้น ยังช่วยชี้ทางแห่งความสุขให้อีก คนที่อาจจะเลิกเหล้าทันทีทันใดไม่ได้ ก็เริ่มตรงหยุดเหล้าหยุดยาเสพติดทุกอย่างช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน แล้วให้ลองดูด้วยว่ามีความสุขแค่ไหน เพื่อจะได้ตัดใจหยุดแล้วหยุดเลย แล้วจะมีความสุขอย่างยั่งยืนถาวรเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ขณะนี้การเมืองระดับท้องถิ่นในหลายจังหวัด อยู่ในช่วงการลงแข่งขันอาสาเป็นผู้บริหารในท้องถิ่นของตนอย่างเช่น อบต. ใน กทม. ก็กำลังอยู่ในช่วงการแข่งขันอาสาขอเป็นผู้ว่าฯ และอย่างที่บอกนโยบายที่เสนอประชาชนเพื่อให้เลือกตนเอง คือ ความสุข ไม่ว่าจะเป็น นโยบายให้การศึกษา ให้ขายของได้ทุกวัน ก็ล้วนแต่หวังว่าจะทำให้คน กทม. มีความสุข
การทำให้ กทม. ปลอดยาเสพติดก็เป็นนโยบายหนึ่งของผู้สมัครแข่งขันเป็นผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งถ้าหากว่าทำได้จริงคน กทม. สังคม กทม. ปลอดจากทุกข์แน่นอน
เมื่อไม่มีทุกข์ก็ย่อมต้องมีแต่สุขแต่จะทำได้ตามนโยบายหรือเปล่าเท่านั้นแหละ ที่ผ่านมา การแข่งขันทุกสมัยก็มีนโยบายนี้ แต่จนแล้วจนรอดก็ทำไม่ได้ แค่ลดยังไม่ได้ มีแต่เพิ่ม
เอาใจช่วยครับ ทำให้ กทม. ปลอดยาเสพติดจะได้ปลอดทุกข์
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
Update 01-07-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก