ปราจีนบุรี ประกาศ พร้อม..เป็นต้นแบบกฐินปลอดเหล้าของภาคตะวันออก
ผู้ว่าฯปราจีนบุรี ประกาศ พร้อม..เป็นต้นแบบกฐินปลอดเหล้าของภาคตะวันออก วอน! เจ้าภาพต่อยอดให้ถึงต้นแบบระดับประเทศ ร่วมจัดงานบุญกุศลแรง ทอดกฐินปลอดเหล้า ฟื้นคืนวิถีบุญบริสุทธิ์ร่วมกัน ..เครือข่ายพระสงฆ์ 490 วัด เร่งรณรงค์เจ้าภาพเข้าใจปฏิบัติตามนโยบายคณะสงฆ์ เพื่อเฉลิมฉลองพุทธชันตีฯ และน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
คณะเครือข่ายพระสงฆ์ ร่วมกับจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานสาธรณสุขจังหวัดฯ ศูนย์ประสานงานเครือข่ายประชาคมงดเหล้าภาคตะวันออก และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงานแถลงข่าวทอดกฐินปลอดเหล้า โดยมีนางสาวจิตรา พรหมชุติมา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีเป็นประธาน พร้อมมอบใบประกาศเกียรติคุณ เชิดชูเจ้าภาพจัดงานกฐินปลอดเหล้าต้นแบบในจังหวัดฯ ณ ห้องประชุมทวารวดี ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี
พระราชภัทรธาดา เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า “งานกฐินตั้งแต่สมัยพระพุทธกาลถือเป็นงานบุญที่ได้รับอานิสงค์ระดับสูงสุด เพราะ 1 ปี ทางวัดสามารถจัดงานทอดกฐินได้เพียงครั้งเดียว สำหรับงานทอดกฐินปลอดเหล้าคณะสงฆ์ถือเป็นงานหลักที่จะต้องร่วมกันรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ตักเตือน และเทศนา ให้พุทธศาสนิกชนร่วมปฏิบัติตามหลักทางประพุทธศาสนาโดยละเว้นจากการดื่มสุราและของมึนเมา หากผิดศีลในข้อ5 จะสามารถกระทำการผิดศีลในทุกข้อได้ การจัดงานกฐินปลอดเหล้าของจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งมีวัดในความดูแล 490 วัด (มหานิกาย) มีนโยบายตามมติคณะสงฆ์ให้ปฏิบัติตามหลักศาสนาพุทธโดยให้จัดเป็นงานกฐินปลอดเหล้าในทุกวัด
นางสาวจิตรา พรหมชุติมา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า “ประเทศไทยนับเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาโลก และทั่วโลกก็ให้การยอมรับเช่นกัน พุทธศาสนิกชนที่ได้น้อมนำศีล ๕ มาปฏิบัติในการใช้ชีวิต ซึ่งพระพุทธเจ้าถือว่าเป็นจะเป็นผู้ที่มีศีลบริสุทธิ์”
“จังหวัดปราจีนบุรีถือว่าเป็นจังหวัดนำร่อง ที่จัดงานเฉลิมฉลองพุทธชยันตีเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย ดังนั้นจึงมีความยินดีที่ได้รับเกียรติให้เป็นจังหวัดนำร่องของงานการจัดงานทอดกฐินปลอดเหล้าทั้งจังหวัด เป็นต้นแบบในภาคตะวันออก และเราก็พร้อมที่จะเป็นจังหวัดการจัดงานกฐินปลอดเหล้าต้นแบบของประเทศอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชาในปีพุทธชยันตี สิ่งสำคัญในการจัดงานกฐินปลอดเหล้านั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับพระสงฆ์ฝ่ายเดียว จะต้องขึ้นอยู่กับเจ้าภาพ ประกอบกับผู้มาร่วมงาน ดังนั้นหากเราทำให้เป็นงานทอดกฐินปลอดเหล้าได้อย่างบริสุทธิ์ผุดผ่องก็จะเกิดกุศลอย่าง 100%”
“นอกจากการน้อมนำศีล5 มาปฏิบัติในงานทอดกฐินแล้ว ยังมีงานบุญวันพระ งานประเพณี รวมไปถึงเทศกาลต่างๆที่เราควรให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน ตลอดจนงานกาชาดของจังหวัดปราจีนบุรีก็มีความยินดีที่จะนำนโยบายของกระทรวงมหาดไทยร่วมกับสภากาชาดมาจัดให้เป็นงานกาชาดปลอดเหล้าด้วยเช่นกัน” ผู้ว่าฯกล่าว
ด้านนายประญัติ เกรัมย์ ผู้ประสานงานด้านศาสนา สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) กล่าวถึงแนวทางในการรณรงค์งานทอดกฐินปลอดเหล้าว่า ในส่วนของจังหวัดปราจีนบุรีได้มีการประชุมเชื่อมประสานการทำงานทอดกฐินปลอดเหล้ากับทางเครือข่ายพระสงฆ์จังหวัดปราจีนบุรี มีข้อสรุปมติคณะสงฆ์ร่วมกันว่าจะจัดงานกฐินปลอดเหล้าทั้งจังหวัด โดยกำหนดวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปีการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ด้วยกฐินปลอดเหล้า พร้อมยกย่องเชิดชูเจ้าภาพที่มีความยินดีและมีความพร้อม 2.) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และ 3.) เพื่อให้เกิดการรณรงค์ให้งานบุญประเพณีปลอดเหล้าและอบายมุข ร่วมเป็นผู้นำชาวพุทธตัวอย่างของสังคมต่อไปในปีเฉลิมฉลองพุทธชยันตีวันครบรอบ 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ทั้งนี้ เจ้าภาพจะมีแนวทางที่จะปฏิบัติในแนวทางเดียวกันคือ ร่วมกันจัดงานโดยไม่มีเหล้า เบียร์ และอบายมุขเข้าไปเกี่ยวข้องตั้งแต่เริ่มต้นจนกฐินเสร็จสิ้นพิธี
ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลงานบุญออกพรรษาโดยเฉพาะงานทอดกฐิน เนื่องจากประชาชนจะมีการดื่มเหล้าระหว่างการเดินทางไปร่วม ภายในงานและภายในวัด คณะรัฐบาลจึงมีกฎหมายมาช่วยสนับสนุน คือพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยห้ามขายและห้ามดื่มสุราในเขตวัดและศาสนสถาน อีกทั้งประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี ห้ามดื่มสุราบนรถทุกชนิด ทั้ง 2 มาตรามีโทษจำคุก 6 เดือนและปรับไม่เกิด 10,000 บาท ดังนั้นขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างความเข้าใจกับประชาชน
ที่มา : สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.)