ปภ. เผย8จ.ภาคเหนืออากาศในภาพรวมเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
แฟ้มภาพ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงาน 8 จังหวัดภาคเหนือคุณภาพอากาศในภาพรวมเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพประสานจังหวัดปฏิบัติการแก้ไขปัญหาต่อเนื่อง
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 05.00 น.พบว่าภาคเหนือมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) และปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐาน (50ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เกินค่ามาตรฐาน 100 ใน 8 จังหวัด ได้แก่เชียงราย (ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย) เชียงใหม่ (ตำบลช้างเผือกตำบลศรีภูมิอำเภอเมืองเชียงใหม่) ลำปาง (ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง ตำบลบ้านดง ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ) ลำพู น(ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองลำพูน) แม่ฮ่องสอน (ตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน) น่าน (ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน ตำบลห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ) แพร่ (ตำบลนาจักรอำเภอเมืองแพร่) พะเยา (ตำบลเวียงอำเภอเมืองพะเยา) โดยมีค่า PM2.5 ระหว่าง 56-90 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร ค่าPM10 ระหว่าง71–116 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และAQIมีค่าระหว่าง114–200 ซึ่งคุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพโดยเฉพาะพื้นที่ตำบลแม่เมาะอำเภอแม่เมาะมีค่า PM2.5 อยู่ที่ 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรค่า PM10 อยู่ที่ 116 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรและAQIมีค่าระหว่าง200คุณภาพอากาศ มีผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสาน 8 จังหวัดภาคเหนือดังกล่าวดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึงจัดเจ้าหน้าชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสนับสนุนการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยฉีดพ่นน้ำลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอย่างต่อเนื่องพร้อมจัดเจ้าหน้าที่ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อีกทั้งดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด โดยพื้นที่ป่าไม้เน้นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบจุดไฟเผาพื้นที่เกษตรกรรมให้กำหนดช่วงเวลาจัดระเบียบการเผาและประกาศเขตห้ามเผาตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาขยะและเศษวัสดุทางการเกษตรเพื่อป้องกันสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันสำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม
ให้หลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน รวมถึงใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันมิให้สูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนนิรภัย1784ตลอด24ชั่วโมงเพื่อประสานแก้ไขปัญหาโดยด่วนต่อไป