ที่มา : ไทยรัฐ

แฟ้มภาพ

"บุหรี่" ต้นทางสู่ยาเสพติดชนิดอื่น เตือนหากสมองถูกทำลายไปแล้วจากสิ่งเสพติด อาจทำให้การคิดวิเคราะห์ การควบคุมอารมณ์ การอยู่ร่วมกันทางสังคมสูญเสียไปโดยสิ้นเชิง

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวและเสวนาออนไลน์เรื่องพฤติกรรมวัยรุ่นกับสารเสพติด หัวข้อ "บุหรี่ต้นทางสู่ยาเสพติดกับกรณีเคนมผง" ว่า จากข้อมูลการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติดของสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.61-31 พ.ค.62 พบผู้ป่วย 3,803 คน เป็นชาย 3,256 คน และหญิง 547 คน กลุ่มผู้ป่วยมากที่สุดอยู่ในช่วงวัยรุ่นอายุ 20-24 ปี รองลงมาช่วงอายุ 25-29 ปี ทั้งนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ส่วนราชการมีนโยบายการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังเด็กและเยาวชนที่อยากรู้อยากลอง ทั้งมีการจับกุมดำเนินคดีกับผู้จำหน่ายและการให้ความรู้ผ่านสถานศึกษาหรือกิจกรรมต่างๆ สำคัญที่สุดคือพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบดูแลบุตรหลาน เพราะบุหรี่อาจเป็นต้นทางสู่ยาเสพติดชนิดอื่นๆ

รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผอ.ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ทางการแพทย์อธิบายได้ชัดเจนว่าเยาวชนที่มีพฤติกรรมเสพติดบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้าและรับนิโคตินเข้าไปเป็นประจำจะส่งผลต่อสมองให้เปิดรับยาเสพติดอื่นๆ นิโคตินในบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้าจะวิ่งเข้าสู่สมองภายในไม่เกิน 10 วินาที และเข้าไปบ่มเพาะสมองของเด็กให้ไวต่อสารเสพติดต่างๆ รวมถึงกระตุ้นสมองส่วนอารมณ์ให้เกิดพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ตามมา จึงอยากเตือนหากสมองถูกทำลายไปแล้วจากสิ่งเสพติด อาจทำให้การคิดวิเคราะห์ การควบคุมอารมณ์ การอยู่ร่วมกันทางสังคมของเราสูญเสียไปโดยสิ้นเชิง.