นำร่อง 7 หมู่บ้าน สร้าง“กลไกชุมชนคุ้มครองเด็ก”

ที่มา : โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้(DSJ)


ภาพประกอบจากเว็บไซต์โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้(DSJ)


นำร่อง 7 หมู่บ้าน สร้าง“กลไกชุมชนคุ้มครองเด็ก”  thaihealth


มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.) รุกสร้าง“กลไกชุมชนคุ้มครองเด็ก” นำร่องใน 7 หมู่บ้านในชายแดนใต้ พร้อมจับมือ 4 มหาวิทยาลัยในพื้นที่ให้นักศึกษาเข้ามาช่วยสื่อสาร สะท้อนเสียงเด็กเพื่อเรียกร้องสันติภาพผ่านสื่อสร้างสรรค์ เตรียมโชว์ในมหกรรมสื่อสันติภาพเด็กและเยาวชนปี 2561


ระหว่างวันที่ 23 – 25 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.) ร่วมกับธนาคารใจอาสาและองค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) ภายใต้การสนับสนุนของสหภาพยุโรป (EU) จัดค่ายเสริมศักยภาพแกนนำเด็กและเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้โครงการมีส่วนร่วมของเด็กและชุมชนเพื่อการสนับสนุนและส่งเสริมกระบวนการสันติวิธีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ Local Engagement to Advocate for Peace Project  (LEAP) ที่โรงแรม ซี.เอส ปัตตานี มีเยาวชนในพื้นที่เข้าร่วมประมาณ 40 คน


โครงการ LEAP มีตัวชี้วัด 3 ด้าน 1.การศักยภาพองค์กรภาคประชาสังคมในพื้นที่ที่ทำงานด้านเด็กและเยาวชน 2.การสนับสนุนงบประมาณ และ 3.การพัฒนาศักยภาพองค์กรเด็กและเยาวชนชนระดับชุมชนเพื่อสร้างกลไกชุมชนคุ้มครองนำร่อง 7 หมู่บ้าน สร้าง“กลไกชุมชนคุ้มครองเด็ก”  thaihealthเด็ก รับผิดชอบโดย มพด.


นายฮัมดี ขาวสะอาด เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก เปิดเผยว่า ตัวชี้วัดที่ 3 มีโครงการพลังเยาวชนผสานชุมชนและเครือข่ายเข็มแข็งเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ ประกอบด้วย 1.การเสริมศักยภาพแกนนำเด็กและเยาวชน มีกิจกรรมสำคัญที่สุดคือการสะท้อนเสียงเด็กเพื่อเรียกร้องสันติภาพผ่านสื่อสร้างสรรค์ และ2.พัฒนากลไกชุมชนคุ้มครองเด็ก เช่น การพัฒนาเครื่องมือคุ้มครองเด็กในระดับชุมชน การสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก การสร้างกลไกคุ้มครองเด็กระหว่างรัฐกับชุมชน และทำข้อเสนอเชิงนโยบาย 3.การรวมองค์กรที่ทำงานด้านเด็กในพื้นที่เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างความเข้มแข็ง


นายฮัมดี เผยต่อไปว่า โครงการพลังเยาวชนผสานชุมชนและเครือข่ายเข็มแข็งเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้เกิดพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กในชุมชุมต่างๆ ส่งเสริมพลังอาสาสมัครเยาวชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็ก ป้องกันความรุนแรงต่อเด็ก สร้างระบบกลไกชุมชนคุ้มครองเด็ก และเพื่อพัฒนาเครือข่ายองค์กรทำงานด้านเด็กและเยาวชนในพื้นที่


นายอิรฟาน มานี เจ้าหน้าภาคสนามมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก เปิดเผยว่า โครงการพลังเยาวชนผสานชุมชนฯ ดำเนินการภายใต้หลักอนุสัญญาว่าด้วยเด็ก(Convention on the Rights of the Child) เพื่อให้เด็กมีสิทธิในการมีชีวิตรอด ปลอดภัยจากภัยอันตรายทุกรูปแบบ เด็กต้องได้รับได้การคุ้มครอง รวมถึงต้องได้รับการพัฒนาทางร่างกาย สังคม สติปัญญา และต้องได้รับการยอมรับจากการแสดงความคิดเห็นในเวทีต่างๆ


“โครงการพลังเยาวชนผสานชุมชนฯ มุ่งหวังให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัยต่อเด็กในระดับชุมชน รวมถึงการสะท้อนเสียงแห่งความหวังแห่งสันติภาพชายแดนใต้ผ่านสื่อสร้างสรรค์ โดยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายเด็กและเยาวชนในพื้นที่” นายอิรฟาน กล่าว


นายอิรฟาน เปิดเผยอีกว่า โครงการนี้ดำเนินการนำร่องใน 7 ชุมชน ได้แก่ 1.บ้านบาโงปะแต ม.1 ต.โคกสะตอ 2.บ้านบือตง ม.3 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส 3.บ้านบือราเป๊ะ ม.2 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส 4.บ้านยูโย ม.8 ต.บานานำร่อง 7 หมู่บ้าน สร้าง“กลไกชุมชนคุ้มครองเด็ก”  thaihealth อ.เมือง จ.ปัตตานี 5.บ้านตะบิงตีงี ม.3 กับ ม.4 ต.ลุโบะยือไร อ.มายอ จ.ปัตตานี 6.ชุมชนธนวิถี เทศบาลเมืองยะลา จ.ยะลา 7.บ้านสาคอ ม.4 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา


นางสาวกนกวรรณ โมรัฐเสถียร หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองเด็ก มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก เปิดเผยว่า 7 ชุมชนนำร่องดังกล่าว คัดเลือกจากชุมชนที่ผู้นำศาสนามีบทบาทในการพัฒนาชุมชน เป้าหมายเพื่อให้ชุมชนสามารถสร้างกลไกชุมชนคุ้มครองเด็กได้ หากประสบความสำเร็จทางมูลนิธิฯก็จะขยายพื้นที่อื่นๆต่อไป


นางสาวกนกวรรณ เปิดเผยอีกว่า โครงการนี้ทำงานร่วมกับ 4 มหาวิทยาลัยในพื้นที่ คือมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลาและมหาวิทยาลัยฟาฎอนี เพื่อให้นักศึกษามาช่วยสร้างกลไกชุมชนคุ้มครองเด็กและช่วยสื่อสารกลไกชุมชนคุ้มครองเด็กออกไปเนื่องจากนักศึกษามีศักยภาพด้านนี้


“ที่สำคัญในปี 2560 โครงการพลังเยาวชนผสานชุมชนฯ จะมีการอบรมทักษะการสื่อสารสันติภาพของเด็กจาก 7 ชุมชนกับนักศึกษาจาก 4 มหาวิทยาลัยข้างต้นในรูปแบบต่างๆ เช่น วีดีทัศน์ ภายถ่าย สารคดี เป็นต้น เพื่อนำไปเสนอในมหกรรมสื่อสันติภาพเด็กและเยาวชนในพื้นที่ในปี 2561” นางกนกวรรณ กล่าว


นายอับดุลตอเล็ฟ โต๊ะขุน เยาวชนจากบ้านบาตง ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส กล่าวว่า สิ่งที่ได้จากการอบรมในครั้งนี้ คือหลักการทำงานเป็นทีม ซึ่งจะทำให้ประสบความสำเร็จมากกว่าทำงานคนเดียว และเป็นหลักคิดที่เยาวชนบ้านบาตงนำไปใช้ในการสร้างกลไกชุมชนคุ้มครองเด็กในหมู่บ้านบาตง

Shares:
QR Code :
QR Code