นางฟ้าชุดขาว ผู้เคียงข้างนักรบเสื้อกาวน์ สู้โควิด-19
เรื่องโดย ฐิติพร โยทาพันธ์ Team Content www.thaihealth.or.th
ภาพโดย ชยวี ลิ้มถาวรรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ
“เหนื่อยค่ะ เหงื่อโทรมกายทุกวัน กินนอนไม่เป็นเวลา อยากให้เข้าใจหมอและพยาบาลด้วย เราก็ทำหน้าที่ของเราเต็มที่แล้ว และจะทำให้ดีที่สุดต่อไป”
“ไม่ได้กลับบ้านมานานแล้ว คิดถึงลูก คิดถึงครอบครัว แต่เพื่อผู้ป่วย พยาบาลอย่างเราต้องทำให้ดีที่สุด”
“บอกข้อมูลจริงกันเถอะนะคะ ไม่ต้องกลัวหมอ พยาบาล ไม่มีความผิดใดทั้งนั้น แต่เราจะผ่านมันไปให้ได้ด้วยกัน”
ประโยคเหล่านี้คือเสียงสะท้อนจากบุคลากรทางการแพทย์ผู้เป็นด่านหน้าในการต่อสู้กับสถานการณ์โควิด-19 ระลอกนี้ ซึ่งทราบกันดีว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงกว่าครั้งก่อน ที่ผ่านมาเรามักจะเห็นข่าวตามสื่อโซเชียลแชร์ภาพให้กำลังใจหมอ พยาบาล ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 หลากหลายภาพที่ได้เห็นรับรู้ได้ว่าเหล่านักรบชุดขาวต้องทำงานหนักแค่ไหน เพื่อช่วยให้คนไทยผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้
นางอุไรวรรณ พลจร พยาบาลวิชาชีพ หัวหน้าหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 2 โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพยาบาลอาสาดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในส่วนขยายโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (SCCC) หรือ โรงพยาบาลสนาม ม.อ. จังหวัดสงขลา ว่า การระบาดรอบนี้หนักกว่าครั้งก่อน ๆ มาก ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น โดยในแต่ละวันต้องปฏิบัติหน้าที่ ดังนี้
1. คัดกรองผู้ป่วยที่เพิ่มเข้ามาใหม่
2. ประเมินอาการของผู้ป่วยในแต่ละวัน
3. จัดการเรื่องอาหารทั้ง 3 มื้อและยาให้แก่ผู้ป่วย
4. ดูแลเรื่องความเรียบร้อย ซึ่งคอยดูผ่านกล้อง
5. ถ้าผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลืออะไรก็จะมาถามตรงจุดที่เตรียมไว้ให้
6. ดูแลเรื่องสุขอนามัย สิ่งแวดล้อม และจัดการขยะจากโซนผู้ป่วยเพื่อไม่ให้แพร่กระจายเชื้อ
“ไม่อยากให้ผู้ป่วยปกปิดข้อมูลจริง เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ระบาดไปมากกว่านี้” อุปสรรคที่เหล่านางฟ้าชุดสีขาว ผู้เป็นด่านหน้าสู้โควิด-19 จะต้องพบเจออยู่หลายครั้งที่ทำหน้าที่คัดกรองผู้ป่วย คือ ผู้ป่วยปกปิดข้อมูล ซึ่งจะพบอยู่ตลอด เพราะหากผู้ป่วยไม่ได้บอกข้อมูลจริงว่าไปสถานที่ไหน ทำกิจกรรมอะไรบ้างในช่วง 14 วันที่ผ่านมา อาจจะนำไปสู่การแพร่เชื้อให้ผู้อื่น และอาจกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ของการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ผู้ป่วยบางคนเมื่อซักประวัติเพื่อทำการคัดกรองโรค เขาจะรู้สึกเครียดและรู้สึกเหมือนตกเป็นจำเลยสังคม เราก็จะวิธีในการพูดคุยกับผู้ป่วยเพื่อให้ได้ข้อมูลจริงมาให้มากที่สุด และส่งต่อข้อมูลนี้ให้กับทางสาธารณสุขจังหวัดดูแลต่อไป
กำลังใจถือเป็นสิ่งสำคัญ นางอุไรวรรณล่าว่า หลายครั้งที่เกิดปัญหาขึ้นระหว่างที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ไม่เพียงแค่การปกปิดข้อมูลเท่านั้น แต่ยังมีปัญหาอื่นๆ ทั้งการดูแลบริหารจัดการเรื่องอาหาร การจัดการเตียงผู้ป่วย ซึ่งเราโชคดีที่มีทีมสนับสนุนที่เข้มแข็ง ทำงานร่วมกันเป็นทีม จึงทำให้แก้ไขปัญหาเหล่านั้นผ่านพ้นไปได้
“เราไม่ได้ดูแลผู้ป่วยแค่เพียงตอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนามเท่านั้น หลังจากที่ผู้ป่วยหายแล้วทีมพยาบาลที่ดูแลก็จะมีการติดตามอาการผู้ป่วยด้วยการโทรสอบถามอาการ รวมถึงให้กำลังใจกันอีกด้วย ไม่ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะมีจำนวนมากแค่ไหน จะพบเจอกับปัญหาอุปสรรคอะไร พยาบาลจะทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยทุกคนอย่างดีที่สุดและไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน เราในฐานะพยาบาลจะทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยทุกคนให้พ้นจากวิกฤตินี้ และส่งทุกคนกลับคืนสู่อ้อมอกของครอบครัว” นางอุไรวรรณ กล่าว
นางฟ้าชุดขาวกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ประชาชนทุกคนมีส่วนช่วยทีมบุคลากรทางการแพทย์ ลดจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อลงได้ด้วยการอยู่บ้าน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ถึงแม้จะอยู่ในบ้านของตนเอง ล้างมือบ่อย ๆ และเว้นระยะห่างอยู่เสมอ ออกกำลังกายและเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพียงเท่านี้ก็มีส่วนช่วยและให้กำลังทีมแพทย์และพยาบาลผู้เป็นด่านหน้าสู้โควิด-19 แล้ว
สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยในตอนนี้ก็เปรียบเสมือนสงครามสุขภาพ โดยมีนักรบชุดขาวอย่างพยาบาลและคุณหมอที่แข็งแกร่งทั้งหลายเป็นฮีโร่ที่จะนำชัยชนะมาสู่ประเทศไทย ชัยชนะที่ว่านั้นคือ ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อให้กลับมามีร่างกายที่แข็งแรง และทำให้ประเทศไทยกลับสู่สภาวะปกติดังเดิม
สสส. ร่วมรณรงค์ให้คนไทยทุกคนช่วยกันยกระดับสู้โควิด-19 ไปด้วยกัน ด้วยการสวมหน้ากากป้องกันตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ไม่ปกปิดข้อมูล ล้างมือให้บ่อย รวมทั้งส่งเสริมให้ความรู้ในการป้องกันโควิด-19 ผ่านช่องทาง “ไทยรู้สู้โควิด” เชื่อแน่ว่าหากเราทุกคนช่วยกันยกระดับป้องกันโควิด-19 เพียงเท่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดจำนวนผู้ป่วย และลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้โดยเร็วที่สุด