“นมแม่” สุดยอดอาหารสมองพัฒนา

การศึกษาจากประเทศสเปน เมื่อปี ค.ศ. 2014 เปรียบเทียบระยะเวลาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อการพัฒนาด้านจิตประสาทของลูกเมื่ออายุ 4 ขวบ พบว่าเด็กทารกที่ถูกเลี้ยงด้วยนมแม่อย่างเดียวนานมากกว่า 6 เดือน เมื่อโตขึ้นจะมีพัฒนาการด้าน Executive Functions (EF) และพัฒนาการด้านอื่นๆ ดีกว่าเด็กที่เลี้ยงด้วยนมแม่แบบระยะสั้นๆ


“นมแม่” สุดยอดอาหารสมองพัฒนา  thaihealth


แฟ้มภาพ


การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นอกจากให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการให้กับลูกแล้ว ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในของสมองแม่ ทำให้แม่มีพฤติกรรมของความเป็นแม่ซึ่งส่งผลดีต่อการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนลูกด้วยความรักความผูกพัน ช่วยลดความเครียด ทำให้แม่ผ่อนคลายและมีความสุขกับการเลี้ยงลูก ขณะเดียวกัน Oxytocin จากน้ำนมแม่ยังถูกส่งต่อไปยังลูกน้อยไปช่วยสร้างสมองของลูกให้พร้อมต่อการมีพัฒนาการที่ดีรอบด้านทั้ง IQ, EQ และ EF


Executive Functions (EF) เป็นการทำงานระดับสูงของสมองที่ควบคุมความคิด การตัดสินใจ และการกระทำส่งผลให้บุคคลมุ่งมั่นทำสิ่งต่างๆ จนสำเร็จตามเป้าหมาย ในเด็กเล็กทักษะสำคัญที่เป็นองค์ประกอบหลักของ EF คือ ความจำขณะทำงาน การยับยั้งอารมณ์ความคิดและการกระทำ การเปลี่ยนความคิดเมื่อเงื่อนไขเปลี่ยนไป / ความยืดหยุ่นทางความคิด การควบคุมอารมณ์ และการวางแผนการจัดการ ทักษะเหล่านี้มีความสำคัญในการที่บุคคลจะกำหนดเป้าหมาย วางแผนการทำงาน เริ่มลงมือทำโดยไม่ต้องมีคนบอก มุ่งมั่นกับงาน รวมทั้งการประเมินปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น เด็กที่มีทักษะ EF ที่ดีจะประสบความสำเร็จทั้งในด้านการเรียน การทำงาน และการอยู่ร่วมกับผู้อื่น


EF เป็นตัวบ่งบอกถึงความพร้อมทางการเรียนมากกว่าระดับสติปัญญา (IQ) ส่งผลต่อการเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านคณิตศาสตร์และการอ่าน ผู้ที่มี EF ดีจะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การทำงาน มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี


พัฒนาการของ EF จะเริ่มพัฒนาตั้งแต่ในวัยเด็กเล็กและพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวัยรุ่น โดยทักษะด้านความจำขณะทำงานจะพัฒนาเร็วกว่าด้านอื่น คือจะเริ่มพัฒนาตั้งแต่ช่วงปลายขวบปีแรกและจะพัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเด็กโตขึ้น ในช่วงปฐมวัยเด็กจะเริ่มพัฒนาทักษะด้านการยับยั้งพฤติกรรมและการควบคุมอารมณ์ เริ่มคิดแบบยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนความคิดได้ดีขึ้นเรื่อยๆ EF จะพัฒนาเต็มที่เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่จากนั้นเมื่อเข้าสู่วัยชราก็จะเริ่มเสื่อมลงตามวัย


การพัฒนา EF นอกจากจะขึ้นกับการพัฒนาสมองส่วนหน้าสุดแล้ว ยังขึ้นกับปัจจัยพื้นฐานที่แตกต่างกันของเด็กแต่ละคน สิ่งแวดล้อมในครอบครัวและวิธีการเลี้ยงดูของพ่อแม่  


 


 


ที่มา : มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย โดย รศ. ดร. นวลจันทร์ จุฑาภักดีกุล ศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล ม.มหิดล


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ

Shares:
QR Code :
QR Code