‘นมแม่’ สร้างภูมิคุ้มกันต้านหนาว ดูดจากเต้าลดปากแห้ง

 

กระทรวงสาธารณสุข ห่วงสุขภาพแม่มือใหม่และลูกช่วงหน้าหนาว แนะให้ลูกดูดนมจากเต้าบ่อยๆ สร้างภูมิคุ้มกันและลดอาการปากแห้งแตก พร้อมส่งเสริมให้แม่กินอาหารที่มีคุณค่า หากเป็นไปได้ควรกินผักและผลไม้ที่ให้วิตามินซีให้มากที่สุด และให้ลูกกินนมแม่นานที่สุด

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงการดูแลสุขภาพแม่หลังคลอดและลูกช่วงหน้าหนาว ว่า ขณะนี้หลายๆ จังหวัดของประเทศกำลังประสบภัยหนาว ซึ่งหากไม่มีการดูแลสุขภาพที่ดีจะทำให้ป่วยเป็นไข้หวัด หรือระบบทางเดินหายใจได้ โดยเฉพาะแม่หลังคลอดและทารกที่ยังต้องกินนมแม่ เพราะยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้กินนมแม่เป็นประจำ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และเมื่อเจอกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น ลูกอาจปากแห้งแตก จึงควรให้ลูกดูดนมแม่จากเต้าบ่อยๆ จะช่วยลดอาการปากแห้งแตกได้ เพราะนมแม่มีน้ำเพียงพออยู่แล้ว ซึ่งตามข้อแนะนำองค์การอนามัยโลกทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือนให้ลูกกินนมแม่เพียงอย่างเดียว

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า การให้ลูกดูดนมจากเต้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งคุณค่าน้ำนมที่ลูกกินนั้นได้จากสารอาหารที่แม่กินเข้าไป ดังนั้นแม่ควรกินอาหารมีประโยชน์และเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย โดยควรกินอาหารหลักให้ครบ 5 หมู่ ทั้งสารอาหารประเภทโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายต้องการเพื่อเสริมสร้างพลังงาน กินผัก และผลไม้ให้มากที่สุดในแต่ละมื้อ เพราะการกินผัก และผลไม้ ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารประเภทวิตามิน และแร่ธาตุที่มีส่วนสำคัญในการสร้างน้ำนม ซึ่งจะช่วยให้ลูกได้รับคุณค่าของสารอาหารนั้นๆ อีกทั้งวิตามินซีจากผักและผลไม้ยังช่วยป้องกันไข้หวัดในช่วงหน้าหนาวด้วย สำหรับลูกนมแม่ยังคงเป็นอาหารเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่เหมาะสมสำหรับทารกแรกเกิดถึง 6 เดือน หลังจากนั้นยังคงให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยจนลูกอายุครบ 2 ปีหรือมากกว่า

ด้าน นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า นมแม่เป็นสารอาหารที่สำคัญและสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดให้กับทารก แม่ทุกคนจึงควรเลี้ยงลูกด้วยนมตนเองให้นานที่สุด เพราะนมแม่ไม่เพียงแต่ปกป้องสุขภาพทารกเท่านั้น แต่ยังเป็นการให้ภูมิคุ้มกันทางจิตใจแก่ลูก นมแม่ประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็นสำหรับทารก โดยนมแม่ในระยะที่ 1 สัปดาห์แรกเป็นยอดน้ำนม ที่เรียกว่าโคลอสตรุ้ม หรือหัวน้ำนม มีภูมิคุ้มกันสูงสุด แม่ควรให้ลูกได้กินหัวน้ำนม เพื่อช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคเพิ่มความแข็งแรงให้ระบบทางเดินหายใจและระบบทางเดินอาหาร ช่วยกำจัดเชื้อโรคทั้งแบคทีเรียและไวรัสที่ติดอยู่บนเยื่อบุทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายลูกได้ยากขึ้น ส่งผลให้ลูกปลอดภัยจากไข้หวัด ปอดอักเสบหรือท้องร่วง และมีโอกาสป่วยน้อยกว่าทารกที่กินนมผสมประมาณ 2-7 เท่า

 

 

ที่มา : สำนักข่าวไทย

Shares:
QR Code :
QR Code