นมแม่มีคุณค่าที่สุด
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า
แฟ้มภาพ
กรมอนามัยย้ำนมแม่มีคุณค่าที่สุด ชี้มีสารอาหารกว่า 200 ชนิด มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต พัฒนาสมอง จอประสาทตา ของเด็ก
นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า นมแม่เป็นอาหารที่มีคุณค่าที่สุด สำหรับลูก เนื่องจากมีสารอาหารกว่า 200 ชนิด ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต พัฒนาสมอง จอประสาทตา ทำให้เด็กสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว มีภูมิต้านทานในการต่อต้าน เชื้อโรค และช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ในลูก เช่น การติดเชื้อของระบบทางเดินอาหาร การติดเชื้อของระบบทางเดิน หายใจ ลดภาวะเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ หอบหืด หูอักเสบ โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ภาวะหลับ ไม่ตื่น (sudden infant death syndrome) โรคอ้วน และเบาหวาน เป็นต้น นอกจากนี้ การให้นมลูกยังทำให้เกิดสายสัมพันธ์ที่ดี เนื่องจาก แม่และลูกได้สัมผัสกัน ก่อให้เกิดความผูกพัน เกิดพัฒนาการทางด้านสมองและสติปัญญา เกิดความฉลาดทางอารมณ์ และมีบุคลิกภาพที่ดีในอนาคต และการโอบกอด การสบตา พูดคุยของแม่ขณะให้นมลูก ก็จะทำให้แม่และลูกรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข
การพัฒนาสุขภาพแม่และเด็กเป็นรากฐานสำคัญที่สุดในการพัฒนาคนไทยให้มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก และองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ เด็กควรได้กินนมแม่อย่างเดียวติดต่อกันตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 เดือน โดยไม่ต้องให้น้ำ หรืออาหารอื่น เนื่องจากนมแม่เป็นอาหาร ที่ย่อยง่ายและถูกสร้างมาให้เหมาะสมกับ สภาพร่างกายของทารก ซึ่งระบบการย่อยและ ดูดซึมอาหารยังพัฒนาไม่เต็มที่มากที่สุด หลังจาก ทารกอายุครบ 6 เดือน เมื่อระบบย่อยและดูดซึม อาหารพัฒนาได้ค่อนข้างสมบูรณ์แล้วจึงให้เริ่มกินอาหารที่เหมาะสมตามวัย เช่น กล้วยน้ำหว้า ไข่แดง ข้าว ผัก ผลไม้ และสารอาหารอื่นๆ ควบคู่กับ การกินนมแม่ต่อเนื่องไปจนถึงอายุอย่างน้อย 2 ขวบ