ธุรกิจยาสูบอาศัยแผ่นดินไทย เพิ่มยอดคนตาย!

 

ธุรกิจยาสูบอาศัยแผ่นดินไทย เพิ่มยอดคนตาย!เป็นที่ทราบกันมากขึ้นแล้วว่าธุรกิจยาสูบข้ามชาติจะมาจัดงานเอ็กซ์โปผลิตภัณฑ์ยาสูบที่อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายนนี้

 

เขาให้เหตุผลในการเชิญชวนผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงธุรกิจยาสูบทั่วโลกว่า เขาเลือกจัดที่กรุงเทพฯ เพราะเอเชียเป็นตลาดใหญ่ที่สุดและโตเร็วที่สุดในโลก

 

เมื่อได้ดูหัวข้อการประชุมที่จะมีการนำเสนอกันแล้ว บอกได้อย่างเดียวว่า บริษัทบุหรี่ข้ามชาติเหล่านี้กำลังใช้ประเทศไทยปฏิบัติการท้าทายโลกทั้งโลก เพราะขณะนี้ 165 ประเทศทั่วโลกกำลังระดมสมองกันอย่างขะมักเขม้น เพื่อร่วมมือกันในการที่จะปฏิบัติตามอนุสัญญาควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ประชากรโลกเลิกสูบบุหรี่ เพื่อลดจำนวนคนที่ตายจากการสูบบุหรี่ ที่ขณะนี้สูงถึงปีละ 5.4 ล้านคน แต่หัวข้อการประชุมในงานเอ็กซ์โปยาสูบเขาพูดถึง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สารปรุงแต่งกลิ่นรสใหม่ (รสผลไม้) รูปแบบซองบุหรี่ใหม่ๆ วิธีการใหม่ๆ ที่ทำให้ผู้สูบได้รับนิโคติน การทำตลาดในประเทศที่ห้ามโฆษณา

 

เราได้รับข้อมูลจากเพื่อนที่มาเลเซียที่มีโอกาสเข้าร่วมประชุมการจัดงานเอ็กซ์โปยาสูบที่กัวลาลัมเปอร์เมื่อสี่ปีก่อน นวัตกรรมทางการตลาดใหม่ๆ ที่แสดงในงานครั้งนั้นได้ถูกนำมาใช้ในมาเลเซีย หลังจากนั้นไม่นาน ที่มาเลเซีย กลุ่มต่อต้านพยายามเคลื่อนไหว เพื่อที่จะล้มการประชุมครั้งนั้น แต่ไม่สำเร็จ ผู้เขียนได้รับอีเมล์จากนายเอียน เทรซี่ ผู้จัดการประชุม โจมตี ท่าทีของผู้เขียนต่อการจัดงานแสดงสินค้ายาสูบครั้งนี้ เขาคาดหวังว่าผู้เขียนจะสนับสนุนงานนี้ อ้างว่าที่ประชุมจะมีการพูดถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบที่มีอันตรายลดลง แต่ความจริงหัวข้อนี้เขาจัดให้มีขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้ผู้สูบบุหรี่ว่า อย่าเพิ่งเลิกสูบนะ เรากำลังพัฒนายาสูบที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับคุณ มีคอลัมนิสต์รายหนึ่งเขียนทำนองว่าเราไม่ควรจะไปต่อต้านการประชุมมากเกินไป เราเป็นเจ้าบ้าน ประเทศชาติต้องมาก่อน ผู้เขียนตอบไปว่าก็เพราะเห็นว่า ประเทศชาติต้องมาก่อนถึงได้ออกมาบอกข่าวให้คนไทยรู้ บุหรี่เป็นสินค้าเสพติดที่ทำให้ผู้เสพเสียชีวิตจำนวนมากมายในแต่ละปี พ่อค้าบุหรี่มาวางแผนเพื่อที่จะขายสินค้าแห่งความตายให้ได้มากที่สุด บนผืนแผ่นดินไทย ผู้เขียนและทีมงานรู้แผนโฉดของพ่อค้าเหล่านี้ เราจึงต้องบอกให้สังคมไทย และสังคมโลก ที่หนีไม่พ้นที่จะเป็นฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากการจัดงานครั้งนี้รับรู้ และถือโอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ให้ทุกฝ่ายรู้ถึงข้อกำหนดของมาตรา 5.3 อนุสัญญาควบคุมการบริโภคยาสูบ องค์การอนามัยโลก ที่ห้ามข้าราชการและหน่วยงานรัฐบาลเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ที่จัดโดยธุรกิจยาสูบ

 

เพราะธุรกิจนี้ต้องการใช้ข้าราชการหรือคนมีชื่อเสียงในสังคมไทยช่วยล้างภาพพจน์ที่ตกต่ำสุดๆ ของพวกเขา เพื่อลดทอนกระแสและมาตรการควบคุมยาสูบ

 

มอริเชียสเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายห้ามธุรกิจยาสูบบริจาคเงินหรือสิ่งของแก่หน่วยงานต่างๆ เพราะถือว่าเป้าหมายที่แท้จริงของการบริจาคคือเป็นการโฆษณาทางอ้อมวิธีหนึ่ง

 

ภาคีทุกฝ่ายจึงต้องร่วมกันเปิดโปงกลยุทธ์ รู้ทันและไม่ตกเป็นเครื่องมือของธุรกิจนี้

 

บอกต่อๆ กันนะครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

เรื่องโดย : ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่

ที่มา : จดหมายข่าวชุมชนคนรักสุขภาพ ฉบับสร้างสุข เดือนตุลาคม 2552

 

 

update 08-10-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code