ธนาคารเวลา สังคมไทยในนวัตกรรมใหม่ กับ ความสุขที่เบิกได้
เรื่องโดย ณัฏฐา สงวนวงศ์ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลจากงาน เว็บไซต์ธนาคารเวลา https://www.thaitimebank.net
ภาพโดย ฐิติชญา สัมปุรณะพันธุ์ Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ
ธนาคารเวลา (Time Bank) เป็นแนวคิดในการรับฝากเวลาแทนเงิน และ เวลาที่ว่านี้ หมายถึง ช่วงระหว่างที่เราทำงานช่วยเหลือผู้อื่น แทนที่ควรจะได้ค่าตอบแทนเป็นตัวเงิน แต่เปลี่ยนเป็นเวลานำไปออมในบัญชีธนาคารเวลาของเราแทน ว่าไปแล้ว “ธนาคารเวลา” เป็นนวัตกรรมในการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สร้างความสัมพันธ์ ที่จะช่วยคนทุกเพศ ทุกวัย และทุกฐานะ ภายใต้บริบทสังคมผู้สูงอายุกว่า 13 ล้านคนของประเทศ ให้มีสุขภาวะดีรอบด้านทั้งกาย จิต ปัญญา และสังคม โดยสมบูรณ์
คุณบอม ชัยฤทธิ์ อิ่มเจริญ โปรเจกต์เมเนเจอร์ ที่คอยช่วยจัดการ ประสานงานโครงการธนาคารเวลาของประเทศไทยที่สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ขยายความในเรื่องนี้ว่า ธนาคารเวลา คือ พื้นที่สื่อกลางการแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือระหว่างสมาชิก โดยลงพื้นที่ดูแล ช่วยเหลือผู้สูงอายุ จะมีการบันทึกจัดเก็บเวลาที่ทำแบบจิตอาสาอย่างเป็นระบบ โดยสมาชิกสามารถเบิกเวลามาใช้ โดยจิตอาสารุ่นใหม่ ๆ จะมาดูแลเราต่อไปเมื่อเรามีอายุมากขึ้น จึงเป็นที่มาของชื่อ “ธนาคารเวลา”
ตั้งแต่ปี 2561 – ปัจจุบัน มีเครือข่ายธนาคารเวลา ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเครือข่ายต่าง ๆ มากกว่า 80 แห่ง ทั่วประเทศ สานพลังภาคีเครือข่าย ฟื้นฟูชุมชน สร้างความเข้าใจ พัฒนาเครือข่ายที่เข้าร่วมช่วยดูแลซึ่งกันและกันภายใต้แนวคิดการเป็นผู้ให้และผู้รับอย่างเท่าเทียม อีกทั้งเล็งผลที่จะให้คนรุ่นใหม่ เห็นความสำคัญของการออมเวลาเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สามารถเบิกถอนเวลาที่สะสมไปใช้ในยามจำเป็นได้ โดยไม่ต้องรอให้อายุมากขึ้นหรือเข้าสู่วัยเกษียณ
เช่น ช่วยขับรถพาไปโรงพยาบาล ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ตัดต้นไม้ ดูแลบ้าน ขับรถพาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล พาไปหาหมอ พาไปซื้อของ พาไปทำบุญตักบาตร์ ซักผ้า ล้างจาน ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ประปา ตัดต้นไม้ ดูแลสัตว์เลี้ยง กวาดถูบ้าน ช่วยตัดเล็บ ตัดผม ช่วยป้อนข้าวผู้ป่วยติดเตียง เฝ้าไข้ การเยี่ยมบ้าน ซ่อมแซมบ้าน การรับส่ง แลกเปลี่ยนความรู้ ดูแลผู้สูงวัย หรือดูแลเด็ก แล้วสะสมแต้มเป็นเวลากับนายธนาคารเวลา เมื่อยามที่คนเองต้องการความช่วยเหลือ สามารถเบิกถอนไปใช้ขอความช่วยเหลือได้ โดยไม่ต้องเกรงใจ เป็นต้น
ซึ่งการทำงานของสมาชิกธนาคารเวลา ไม่ว่าจะมีลักษณะกิจกรรมแบบไหนก็ตาม จะมีค่าที่เท่ากัน คือ การช่วยเหลือของกิจกรรม 1 ชั่วโมง จะได้รับ 1 คะแนน (เครดิตเวลา) ดังนั้นทุกชั่วโมงในการดูแลจะเป็นคะแนนสะสมเวลาในรูปแบบบัญชีส่วนบุคคล สามารถเบิกถอนเวลาได้เมื่อยามต้องการความช่วยเหลือ
คุณบอม ชัยฤทธิ์ อิ่มเจริญ โปรเจกต์เมเนเจอร์ที่คอยช่วยจัดการ ประสานงานโครงการธนาคารเวลาของประเทศไทยที่สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ความเข้าใจในเรื่องนี้ในทิศทางเดียวกัน ที่ว่า…
“สมาชิกโครงการธนาคารเวลา สามารถเป็นได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป โดยจะเก็บสะสมในรูปแบบของเวลา และเมื่อเรากลายเป็นผู้สูงอายุ ก็จะผู้ผลัดเปลี่ยนมีคนมาคอยดูแลเราแทน เป็นเหมือนการเบิกเวลามาใช้นั้นเอง โครงการนี้จึงมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกหลานคอยดูแล และยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างชุมชนอีกด้วย”
จุดเริ่มต้น…ของโครงการนี้ “เพราะ สสส.เล็งเห็นว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งรัฐฯ จะต้องรับผิดชอบในการจัดสวัสดิการเพื่อดูแลสุขภาพผู้สูงอายุมากยิ่งขึ้น โครงการฯ นี้จึงเข้ามาช่วยพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุด้วยรูปแบบของ “ธนาคารเวลา” ซึ่งเป็นแนวทางการจัดตั้งโครงการธนาคารเวล าที่เกิดขึ้นได้จริงในบริบทของสังคมไทย”
คุณภรณี ภู่ประเสริฐ ผอ.สำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า สสส. ตระหนักและให้ความสำคัญกับการสถานการณ์ “สังคมสูงวัย” โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่าย พัฒนารูปแบบการดำเนินงาน “ธนาคารเวลา” นวัตกรรมทางสังคมในการช่วยเหลือเกื้อกูลในชุมชนให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ ซึ่งช่วงที่ผ่านมา สสส. สนับสนุนการดำเนินการกว่า 80 พื้นที่ ในบริบทของสังคมไทย
อีกทั้ง ยังเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชน สามารถเรียนรู้ถึงธนาคารเวลา โดยสถานศึกษาสามารถบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอน ลงสู่คนทุกกลุ่มวัยในแต่ละแห่งที่เป็นเครือข่ายธนาคารเวลา ที่มีรูปแบบการดำเนินงานมีข้อตกลงร่วมกัน ประกอบด้วย
1.มีสถานที่ทำการธนาคารเวลาเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ รองรับการศึกษาดูงานของภาคีเครือข่าย
2.มีผู้จัดการ คณะทำงาน คณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง
3.มีฐานข้อมูลสมาชิกธนาคารเวลาและมีการสะสมเวลาต่อเนื่อง
4.มีกองทุนธนาคารเวลาขับเคลื่อนการดำเนินงานระยะยาว เพื่อทำให้เป็นต้นแบบและองค์ความรู้ ขับเคลื่อนกลไกระดับประเทศ
“…อย่างไรก็ตาม ธนาคารเวลา ยังเป็นประเด็นใหม่กับสังคมไทย ที่ต้องใช้เวลาสร้างความเข้าใจที่จะนำสู่การขับเคลื่อนข้อเสนอเชิงนโยบายให้สำเร็จได้ในเร็ววัน และในที่สุดแล้วต้องมีผู้จัดการธนาคารเวลา เป็นคนกลางสานสัมพันธ์ เรื่องการออมเวลา รองรับการช่วยเหลือยามจำเป็นโดยไม่ใช้เงิน…” คุณภรณี กล่าว
นวัตกรรมนี้ เป็นนวัตกรรมที่สร้างคุณค่าการเป็นผู้ให้และผู้รับให้มีความหมายยิ่งขึ้นและ หัวใจสำคัญ ของ ธนาคารเวลา คือ ความเชื่อใจที่เกิดจากความเข้มแข็งของคอมมูนิตี้ธนาคารเวลานั้นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้เงินมากเท่าไรก็หาซื้อไม่ได้ สสส. มีเจตนารมณ์ในการพัฒนา “Time Bank” เป็นนวัตกรรมในการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ที่มีระบบกลไกต่างๆ เข้ารองรับสังคมสูงวัยสู่เป็นความยั่งยืน ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สามารถลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ และสร้างความเท่าเทียมในสังคม
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ QR Code Line OA : ธนาคารเวลา