“ทุเรียนเผา”วิตามินแร่ธาตุลดลง

ที่มา : เว็บไซต์กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


“ทุเรียนเผา”วิตามินแร่ธาตุลดลง thaihealth


แฟ้มภาพ


“กรมอนามัย” เผยทุเรียนเผาวิตามินลดลง แนะกินแบบสดๆ ปริมาณพอเหมาะ ไม่เกิน 2 เม็ดต่อวัน ผู้มีภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน หลอดเลือดหัวใจตีบ และไต ต้องระวังเป็นพิเศษ


นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีงานวิจัยใดยืนยันว่าการเผาทุเรียนจะทำให้กำมะถันในทุเรียนเพิ่มปริมาณมากขึ้นจนเป็นเหตุให้ผู้ที่บริโภคเสียชีวิต แต่การเผาทำให้วิตามิน เช่น โฟเลต วิตามินบี ซี ลดลง การเผาทุเรียนนั้น น้ำในทุเรียนระเหยออกไป ทุเรียนเผาจึงมีรสชาติหวานขึ้น กระตุ้นให้อยากกินมากขึ้น ไม่ควรเผาทุเรียนจนไหม้ หากกินสะสมไปนานๆ ไม่ต่างจากการกินอาหารปิ้งย่างจนไหม้เกรียมเสี่ยงมะเร็ง กลุ่มผู้ป่วยเป็นโรคไต เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหลอดเลือดหัวใจตีบควรระวังเป็นพิเศษ


รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หากกินทุเรียนในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้อาการเสี่ยงทรุดได้ เพราะในทุเรียนมีแป้งและไขมันสูง ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหลอดเลือดหัวใจตีบ ต้องคุมระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ควรกินทุเรียนแต่พอเหมาะ ไม่กินในปริมาณมากและไม่กินถี่ทุกวัน หากเป็นไปได้กินไม่เกิน 1 เม็ดเล็กต่อวัน และเนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้มีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคไตไม่สามารถขับโพแทสเซียมส่วนเกินได้เท่าคนปกติจึงควรเลี่ยง เพราะจะส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะโดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระดับ 4 และ 5


ทางด้านแพทย์หญิงนภาพรรณ วิริยะอุตสาหกุล ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กล่าวเสริมว่า ทุเรียนจัดเป็นผลไม้ที่ให้วิตามินแร่ธาตุ เป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตและไขมัน ใน 1 วันแนะนำให้กินผลไม้ให้หลากหลาย 3-5 ส่วนทุเรียน 1 เม็ด เท่ากับ 2 ส่วน ให้พลังงาน 130 กิโลแคลอรีหรือเทียบได้เท่ากับข้าวประมาณ 2 ทัพพี จึงควรกินไม่เกิน 2 เม็ดต่อวัน และไม่กินถี่ทุกวันเพราะอาจส่งผลให้น้ำหนักเกิน เจ็บคอ นอกจากนี้ในมื้อที่กินทุเรียนควรลดอาหารประเภทข้าว แป้ง ขนมหวานควบคู่ไปด้วย เช่น กินทุเรียนแล้วก็ไม่ต้องซ้ำด้วยของหวานอื่น หรือถ้าจะกินทุเรียนมื้อนี้ควรลดข้าวให้น้อยลง รวมถึงไม่ควรกินข้าวเหนียวทุเรียนบ่อยเนื่องจากมีความหวานมัน

Shares:
QR Code :
QR Code