ทำความรู้จักกับโรคโมยาโมยา
ที่มา : http://talkaboutsex.thaihealth.or.th
โรคโมยาโมยา เป็นโรคทางระบบประสาทที่หลายคนไม่รู้จัก ทั้งยังมีการเข้าใจผิดในคนบางกลุ่ม คิดว่าเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ ผู้ป่วยจะมีอาการแสดงที่ผิดปกติไปจากเดิม คือพูดไม่รู้เรื่อง แขนขาอ่อนแรง แต่โรคดังกล่าวสามารถอธิบายทางการแพทย์ได้ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติในเส้นเลือดสมอง ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ จึงแสดงอาการผิดปกติให้เห็น
ทำความรู้จักกับโรคโมยาโมยา
โรคโมยาโมยา เป็นโรคที่พบไม่บ่อย เกิดจากเส้นเลือดใหญ่ที่เลี้ยงสมองส่วนด้านหน้าและด้านข้างทั้งสองข้างเกิดการตีบตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ไม่เพียงพอ ร่างกายมีการปรับตัวสร้างเส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ ไปเลี้ยงสมองแทน เส้นเลือดฝอยดังกล่าวดูเหมือนกลุ่มควันจากการเอ็กซเรย์หลอดเลือดสมอง และเป็นโรคที่รายงานครั้งแรกรวมถึงพบบ่อยในชาวญี่ปุ่น จึงเรียกโรคนี้ว่าโมยาโมยา ซึ่งแปลว่า”กลุ่มควัน”ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง
อาการของโรคโมยาโมยา
อาการของโรค ส่วนใหญ่เป็นอาการของสมองขาดเลือด สมองทั้งส่วนด้านหน้าและด้านข้างเกี่ยวข้องกับการทำงานหลายอย่าง ผู้ป่วยจึงมีอาการได้หลายหลาย และอาการอาจจะเกิดเป็นพักๆ โดยเฉพาะเวลาที่มีการหายใจแรงๆ เช่น หอบเหนื่อยจากการออกกำลัง เป็นต้น อาการที่พบได้แก่ สมองขาดเลือดชั่วคราว ยังไม่ถึงกับสมองตาย ทำให้มีอาการต่าง ๆ อยู่ชั่วขณะ เช่น ชา แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด มึนงง เป็นต้น สามารถกลับคืนเป็นปกติได้ในเวลาไม่เกินหนึ่งวัน
สมองขาดเลือดรุนแรงจนเกิดภาวะสมองตาย เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ อาจมีอาการอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ได้ บางรายหากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอนาน ๆ อาจมีอาการปวดหัว การเรียนและความจำแย่ลง พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เป็นต้น ปวดหัวรุนแรงจากมีเลือดออกในสมอง อาการชัก
วิธีสังเกตโรคโมยาโมยา
โรคโมยาโมยามีอาการแสดงหลายอย่าง บางอาการอาจคล้ายคลึงกับโรคอื่น เช่น แขนขาอ่อนแรงที่คล้ายกับโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต วิธีการสังเกตว่าเป็นโรคโมยาโมยาหรือไม่ ต้องดูจุดเด่นของโรคคืออาการอาจเกิดขึ้นกับสมองทั้งสองข้าง โดยอาจแสดงอาการไม่พร้อมกัน เช่น แขนขาซีกซ้ายอ่อนแรงบ้าง แข่นขาซึกขวาอ่อนแรงบ้างสลับกันไปมา อย่างไรก็ตามต้องยืนยันด้วยการตรวจเอกซเรย์ดูเส้นเลือดสมอง
สาเหตุของโรคโมยาโมยา
โรคโมยาโมยาพบบ่อยในชาวญี่ปุ่น เกาหลี ในประเทศไทยพบได้ไม่บ่อย ส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุ ผู้ป่วยบางกลุ่มจะมีความเสี่ยงของโรคโมยาโมยาสูงกว่าคนทั่วไป ได้แก่ คนที่มีโรคทางความผิดปกติของพันธุกรรม เช่น ดาวน์ซินโดรม ท้าวแสนปม ธาลัสซีเมีย หรือในคนที่เคยรับการฉายแสงที่สมอง เป็นต้น
การรักษา
การรักษาที่มีประสิทธิภาพคือการผ่าตัดเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น เราไม่สามารถแก้ไขบริเวณที่เส้นเลือดสมองใหญ่ตีบตันได้ แต่เราสามารถผ่าตัดทำทางให้มีเส้นเลือดไปเลี้ยงสมองได้เพิ่มมากขึ้น และเพียงพอกับที่สมองต้องการ จึงช่วยป้องกันการเกิดอาการต่างๆที่สำคัญได้แก่ อ่อ่นแรงเป็นๆหายๆ ปวดศีรษะ เป็นต้น ร่วมกับการรับประทานยากลุ่มแอสไพริน การรักษาดังกล่าวจะช่วยลดการเกิดภาวะสมองขาดเลือด และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย