ถอดบทเรียน ‘พังงา’ สู่ภารกิจช่วยชีวิต ‘หมูป่า’
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ภาพประกอบจากเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ
ตั้งแต่ปี 2557-2560 ผลการ จัดอันดับจังหวัดแห่งความสุขของประเทศไทยพบว่า "พังงา" เป็นจังหวัดที่มีความสุขเป็นอันดับสองของประเทศ
โดย "พังงาแห่งความสุข" ไม่ได้ มาจากเพียงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังมาจาก "ความสุขของคุณภาพชีวิตที่ค่อยๆ ถูกพัฒนาขึ้นจนคนในจังหวัดสามารถสัมผัสได้อย่างทั่วถึง" ซึ่งความสุขเหล่านี้ เกิดขึ้นจากเบื้องหลังการทำงานฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกันของคนในพื้นที่ทุกภาคส่วน จนก้าวผ่านปัญหาที่ต้องเผชิญ ทั้งการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ระบบสวัสดิการที่ไม่ทั่วถึง รวมถึงการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการต่อรองเชิงเศรษฐกิจดังที่ควรจะเป็น
ด้วยประสบการณ์การเดินทางต่อสู้ของกลุ่มคนพังงา มีบทเรียนที่คนทำงานเพื่อขับเคลื่อนสังคมสามารถเรียนรู้และนำไปปรับใช้ได้โดยเฉพาะ "การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในระดับฐานรากมีความเป็นตัวของตัวเองและมีศักดิ์ศรี" ศ.นพ.ประเวศ วะสี และ ประชา หุตานุวัตร จึงเห็นว่าควรที่จะมีการตีแผ่แนวคิดและกระบวนการทำงานออกสู่สาธารณชน จึงเกิดเป็นหนังสือถอดบทเรียน "พังงาแห่งความสุข…สุขที่คุณสัมผัสได้" ซึ่งมีการจัดทำโดยโครงการผู้นำแห่งอนาคต คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการ สร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และจัดงานเปิดตัวพร้อมด้วยเสวนาน่าสนใจ
เริ่มจากการขึ้นเวทีของ ไมตรี จงไกรจักร นายกสมาคมประชาสังคมพังงาแห่งความสุข ได้ถอดบทเรียน การทำงานของตนและคนพังงาว่า "การทำงานเพื่อสังคมของคนพังงา เริ่มจากการทำงานให้ตอบโจทย์ชี้วัดผลสำเร็จของผู้สนับสนุนงบประมาณ ที่ผลักดันการขับเคลื่อนสังคมในทิศทางขององค์กร ทั้งจากมูลนิธิชุมชนไท สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. รวมถึงหน่วยงานที่มีพระคุณอีกมากมาย จนมาพบจุดหักเหแนวคิดที่เปลี่ยนการทำงานของคนพังงาครั้งใหญ่
คือ คำพูดชวนคิด 'เป้าหมายควรจะเป็นของเรา…ไม่ใช่ของใครอื่น' โดย อาจารย์ชัยวัฒน์ ถิระพันธุ์ ตั้งแต่ปี 2556 ทำให้คนพังงาทุกคนต้องตอบคำถามอย่างแท้จริงว่า 'พังงาแห่งความสุขคืออะไร' ซึ่งนำไปสู่การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สู่นโยบายระดับจังหวัด เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปเพื่อความสุขของคนในจังหวัดอย่างแท้จริง… เราทุกคนช่วยกันสร้างกว่า 100 รูปธรรมแห่งความสุขให้เกิดขึ้น ในจังหวัดพังงา"
ขณะที่ ปรีดา คงแป้น กรรมการและเลขานุการมูลนิธิชุมชนไท หนึ่งในผู้ผลักดันหลักให้คุณไมตรีก้าวสู่การทำงานเพื่อสังคม ได้สะท้อนสองปัจจัยความสำเร็จของคนพังงาว่า "ปัจจัยที่หนึ่ง คือ การพยายามบ่มเพาะตนเองและทีมงานให้เกิดความเข้าใจ สามารถวิเคราะห์ และมองเห็นความเชื่อมโยงของปัญหาระดับจังหวัด และพัฒนาให้ไปถึงระดับโครงสร้างโดยตลอด ปัจจัยที่สอง คือ การมีภาวะการเป็นผู้นำร่วม (Collective Leadership) ของคนทำงานทั้งภาคประชาชน ภาครัฐ และเอกชน ในการทำงานขับเคลื่อนเพื่อความสุขของทุกคนในจังหวัดไปด้วยกัน"
ส่วน ธีรพล สุวรรณรุ่งเรื่อง พอช. ได้เน้นย้ำสิ่งที่คุณปรีดาสะท้อนว่า "จุดแข็งสำคัญของที่นี่ คือ การที่คนพังงาไม่ได้มีฐานคนทำงานเพียง 10 หรือ 20 คน แต่เป็นการผนึกกำลังการทำงานของคนหมู่มากที่รวมตัวกันเพื่อจะพัฒนาถิ่นฐานบ้านเกิดอย่างยั่งยืน"
นอกจากการเสวนาโดยผู้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนจังหวัดพังงาสู่ยุทธศาสตร์พังงาแห่งความสุขแล้ว ศ.นพ.ประเวศ วะสี ยังให้เกียรติ ปาฐกถาพิเศษ โดยได้ถอดบทเรียนการทำงานของ "พังงาแห่งความสุข" และ "การช่วย 13 ชีวิตหมูป่าออกจากถ้ำหลวง" เหตุการณ์ซึ่งพึ่งเกิดขึ้น ในช่วงต้นเดือนว่า มีปัจจัยความสำเร็จเหมือนกัน 8 ข้อ ดังนี้
1.การแก้ไขปัญหาดำเนินการหลักโดยคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นผู้เผชิญและมีความเข้าใจต่อปัญหา 2.ร่วมมือเป็นหนึ่งเพื่อเป้าหมายเดียวกัน 3.ไม่มีการแบ่งแยกในการทำงาน ไม่ว่าจะด้วยองค์กร อาชีพ หรือเชื้อชาติ
4.เกิดการเรียนรู้ร่วมกันจากการปฏิบัติงานในสถานการณ์จริง (Interactive learning and action) ทำให้เกิดปัญญาร่วมและอัจฉริยภาพกลุ่ม 5.มีการแสวงหาผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีได้เหมาะสมกับปัญหา
6.ผู้ประสานงานและดำเนินการในพื้นที่มองเห็นปัญหาแบบภาพรวม และสามารถสื่อสารเพื่อสร้างความเป็นเอกภาพท่ามกลางความหลากหลาย
7.อ่อนน้อมถ่อมตน ยกย่องผู้อื่น ทำงานเพื่อส่วนรวม
8. มีการสื่อสารสู่สาธารณะ ซึ่งเป็นเครื่องมือหนึ่งในการกำกับทิศทางการทำงานให้อยู่บนความถูกต้อง
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบทเรียนการทำงานของ "พังงาแห่งความสุข" ที่ทำงานร่วมกันมากว่า 20 ปีเท่านั้น ภายในหนังสือยังมีประสบการณ์การล้มลุกคลุกคลาน จุดแข็ง จุดอ่อน หรือแนวทางในการทำงานของชุมชน
ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดหนังสือ "พังงาแห่งความสุข…สุขที่คุณสัมผัสได้" ได้ทางช่องทางออนไลน์ ที่เว็บไซต์โครงการผู้นำแห่งอนาคต www.leadershipforfuture.com