ตีแผ่ผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านหนัง

ที่มา : เว็บไซต์สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.)


ภาพประกอบจากเว็บไซต์สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.)


ตีแผ่ผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านหนัง thaihealth


ตีแผ่ผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผ่านหนัง “A Royal Hangover” หวังจี้ต่อมสำนึกผู้มีอำนาจแก้ปัญหาจริงจัง


สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส) ได้ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าและคณะกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ  จัดโครงการสร้างกระบวนการเรียนรู้ผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผ่านการชมภาพยนตร์ “A Royal Hangover” เพื่อสร้างความตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งปัญหาเชิงโครงสร้างที่เกี่ยวข้อง ผ่านการชมภาพยนตร์ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน โดยได้รับเกียรติจาก นายตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธานเปิดกิจกรรม ณ ห้องเอ็มโพเรี่ยม ชั้น 5 หอศิลป์ กรุงเทพฯ ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน กทม.


นายตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผลต่อการควบคุมสติสัมปชัญญะและเสี่ยงต่อสุขภาพ รวมถึงการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นในสังคม เป็นที่นิยมในสังคมทั่วโลกโดยผู้บริโภคไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมาหลายประเทศ ทั้งในระดับอาเซียนหรือระดับโลก ได้พยายามที่จะชี้ให้เห็นถึงพิษภัยของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากที่ผมเคยได้ไปร่วมประชุมในโอกาสต่างๆ สะท้อนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอยู่ในระดับที่มีความเสี่ยง แม้เราจะมีกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่ปี 2551 มีมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในหลายมติในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เรายังคงเห็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีการโฆษณาอยู่ในรูปแบบต่างๆ ที่โฆษณาทางตรงและโฆษณาแฝง ภาพของการดื่มของประชาชน ที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ หรือสื่อสมัยใหม่ที่เจาะกลุ่มเด็กเยาวชน”


ตีแผ่ผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านหนัง thaihealth


“โครงการสร้างกระบวนการเรียนรู้ผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านการชมภาพยนตร์ “A Royal Hangover” เป็นการสร้างการเรียนรู้แก่เยาวชน โดยใช้ภาพยนตร์หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศอังกฤษ ตีแผ่แนวคิดหรือผลกระทบต่างๆ หลากหลายแง่มุม กระตุ้นให้ได้คิดและมองปัญหาอย่างรอบด้าน ยอมรับว่าการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งทั่วโลกและในบ้านเรากำลังอยู่ในจุดที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะปัญหาที่จะไปสะสมยังลูกหลานของเรา การป้องกันมิให้สังคมไทยเดินหน้าไปสู่หายนะแบบภาพยนตร์ได้นำเสนอไว้ จุดที่ผู้คน เด็ก  เยาวชน ขาดความฝัน ขาดแคลนเป้าหมายในการดำเนินชีวิต จนกระทั่งหันหน้าเข้าหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดเวลา  ตรงนี้ทำให้เราต้องย้อนกลับมามองและทำงานเชิงรุกกันอย่างจริงจัง ทั้งการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตลอดถึงการบังคับใช้กฎหมายและ มีพื้นที่สร้างสรรค์ มีทางเลือกที่หลายให้เยาวชนและสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี”


นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ คณะกรรมการบริหารกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวถึงการดื่มในปัจจุบันว่า “สถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนน่าห่วงที่สุด ภาพยนตร์เรื่อง “A Royal Hangover” หรือที่เราแปลกันว่า “เมาค้างกันทั้งเมือง หรือเมาเกลื่อนเมือง” ซึ่งค่อนข้างจะตรงกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหยุดยาว ซึ่งภาพยนตร์ดังกล่าวแม้จะเป็นภาพยนตร์ที่มาจากต่างประเทศ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงผลที่สืบเนื่องตามมา ไม่เฉพาะผลกระทบต่อสุขภาพ สังคม เศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังชี้ลงลึกไปให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างสังคมที่หมักหมมของประเทศอังกฤษ ที่ต่างออกไปจากประเทศอื่นๆ ในยุโรป  มีระดับความรุนแรงและความตึงเครียดทางสังคมและวิถีชีวิตในระดับที่สูง พร้อมกับขาดการออกแบบในการสร้างทางออกที่เหมาะสมมารองรับในการแก้ไขปัญหา จึงนำพาผู้คนเข้าไปสู่วงจรที่พัวพันกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่สุด ซึ่งสามารถสะท้อนถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันของประเทศไทยได้เช่นกัน”


“ทั้งนี้ สสส.และภาคีเครือข่าย  หวังว่าบทเรียนจากภาพยนตร์เรื่องนี้จะสามารถกระตุ้นให้ภาครัฐและเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างสุขภาวะให้คนไทยโดยรวมได้หันมาใส่ใจและหาแนวทางร่วมกัน ในการป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสังคมไทยอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเป็นการปกป้องเยาวชนไทยที่เป็นทรัพยากรบุคคลสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคตให้ดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย จึงกำหนดที่จะฉาย” A Royal Hangover” ให้ชมฟรีในโรงภาพยนตร์ 10 ภูมิภาคในหัวเมืองสำคัญทั่วประเทศ อาทิ กรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น นครศรีธรรมราช ราชบุรี พิษณุโลก ชลบุรี สงขลา นครปฐม สุรินทร์ นอกจากนี้จะมีการนำไปฉายเพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ในสถานศึกษา เครือข่ายมหาวิทยาลัยปลอดเหล้าทั่วประเทศกว่า 40 แห่งอีกด้วย”


ตีแผ่ผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านหนัง thaihealth


นายกนกพงษ์  อนุรักษ์จรรยง (แม็กก้า อดีตศิลปินตลกคณะชวนชื่น) เล่าย้อนถึงการเริ่มกลายเป็นคนติดเหล้าว่า  “ตอนผมเริ่มเข้าวงการตลกมายังเป็นวัยรุ่น ผมไม่เคยดื่มเหล้าเลย พอได้มาเล่นตลกในร้านคาเฟ่ ได้พบเห็นลูกค้า ที่ดื่มเหล้าก็ไม่ได้คิดจะลองดื่มเลย เพราะทำงานกำลังสนุก จนกระทั่งเริ่มมีชื่อเสียง มีเงิน ก็มีเพื่อนชวนลงทุนร่วมหุ้นเปิดร้านขายเหล้า ขณะนั้นอายุประมาณ 20 ปี เพื่อนเริ่มชวนให้ดื่มเหล้า จากไม่ดื่ม..เป็นดื่มวันละขวด ดื่มไป..ขายไป จนติดกลายเป็นต้องดื่มทุกวัน สุขภาพก็แย่ บางครั้งเมาไม่ได้สติ เริ่มขี้เกียจ ไม่สนใจการทำงาน  ดื่มแล้วนอนไม่ค่อยอยากตื่น ไม่มีความรับผิดชอบ จนกระทั่งถูกถอดจากละคร ธุรกิจทางร้านเกิดขาดทุนหมดตัว เกิดความเครียดจึงหันไปพึ่งยาเสพติด และถูกจับโดนข้อหาขายยาด้วย ในที่สุดถูกสังคมตราหน้าเป็นคนไม่ดี ทำให้เพื่อนๆ เมินไม่สนใจ”


“การมีชีวิตที่อยู่ในเรือนจำผมได้ทบทวนหลายเรื่องหลายอย่าง ผมมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร..การดื่มเหล้าเป็นประตูสู่ความหายนะ การดื่มที่คิดว่าดื่มอย่างมีสติ กลายเป็นเมาขาดสติได้ ทำให้ชีวิตพลิกผันขนาดนี้  และขณะนี้ผมมีสติมากขึ้น จนสังคมให้โอกาสในการกลับมามีชีวิตใหม่ ตอนนี้กำลังจะคืนเข้าสู่วงการดนตรีซึ่งเป็นสิ่งที่รัก นับว่าได้กลับคืนสู่ชีวิตใหม่อีกครั้ง” แม็คก้า กล่าว  

Shares:
QR Code :
QR Code