ตามติดเวิร์คช็อปแกนนำเยาวชนด้านกิจกรรมสร้างสรรค์
healthy youth project by thaihealth 2010
ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 แล้ว สำหรับกิจกรรมดีๆ รับปิดเทอมเดือนตุลาคม อย่างโครงการ “สร้างแกนนำเยาวชนด้านกิจกรรมสร้างสรรค์ healthy youth project by thaihealth 2010″ ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกลุ่มเยาวชน ยังโปรเจกต์ (young project) จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความสามารถของเยาวชนในด้านที่พวกเขาสนใจและชื่นชอบ พร้อมทั้ง สร้างแนวคิดในการทำกิจกรรมที่เกิดประโยชน์ เพื่อให้ห่างไกลบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และที่สำคัญคือ การสร้างเครือข่ายเยาวชนที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต
ในปีนี้มีน้องๆ เยาวชน อายุ 12-18 ปี จำนวน 200 คน ที่ผ่านการคัดเลือกจากทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรม โดยรูปแบบการเวิร์คช็อป จะเป็นการสอนในเชิงขั้นพื้นฐานกิจกรรมสร้างสรรค์ จากผู้เชี่ยวชาญที่คัดสรรมาโดยเฉพาะในแต่ละด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเต้นบี-บอย โดย ครูเล็ก-ชัยวัฒน์ สารีบุตร ผู้เชี่ยวชาญ และวิทยากรจาก สสส. การสอนกราฟฟิตี้ (graffiti) โดย ครูอาร์ต-พรพรหม สวันตรัจฉ์ และการสอนเต้นรำ กับครูมิ้ง-ปอรรัชม์ ยอดเณร จากสถาบันบางกอกแดนซ์ และที่พิเศษสุดในปีนี้ คือกิจกรรมการพัฒนากายและใจไปพร้อมๆ กัน ณ เสถียรธรรมสถาน โดยมีวิทยากรพิเศษ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ที่ทั้งเอื้อเฟื้อสถานที่ในการจัดกิจกรรม พร้อมให้แนวคิดดีๆ กับเด็กๆ อีกด้วย
แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต จากเสถียรธรรมสถาน กล่าวว่า ดีใจที่เห็นวัยรุ่นไทยใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ซึ่งจากสถานการณ์หรือข่าวสารที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจะพบว่า แนวโน้มในการกระทำความผิดของเยาวชนมีอัตราที่สูงขึ้นทุกปี ดังนั้นหากมีกิจกรรมดีๆ ที่มีความสร้างสรรค์ จะช่วยส่งเสริมให้วัยรุ่นได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยกิจกรรมนี้นอกจากจะช่วยปลูกฝังเรื่องการรักษาสุขภาพ และการใช้ชีวิตที่ปลอดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ยังมีการสอดแทรกธรรมะไปพร้อมกับความบันเทิง ซึ่งจะทำให้เกิดความเพลิดเพลินในการเรียนรู้และพร้อมที่จะร่วมทำกิจกรรมดีๆ ต่อไป
“อย่างที่เราๆ ท่านๆ ทราบกันดีว่า วัยรุ่นเป็นวัยที่อยากรู้อยากลอง จึงมักถูกชักจูงไปในทางที่ผิดได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวัยนี้ จะเป็นวัยที่ค่อนข้างติดเพื่อน เชื่อฟังเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ของตนเอง หากคบเพื่อนที่ไม่ดีก็มักจะชักชวนกันไปทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม อย่างเช่น การเที่ยวเตร่ ดื่มสุรา นำไปสู่ปัญหาสังคมอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย การที่มีโครงการดีๆ อย่างนี้เกิดขึ้น จึงช่วยให้เยาวชนสามารถใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ เพราะมีกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่ผสมผสานระหว่างความรู้และความบันเทิงไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ซึ่งมีความเหมาะสมกับรสนิยมของวัยรุ่นสมัยนี้เป็นอย่างยิ่ง” แม่ชีศันสนีย์ กล่าว
ตัวแทนวิทยากร อย่าง ครูเล็ก-ชัยวัฒน์ สารีบุตร วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านบี-บอย กล่าวว่า โครงการนี้เป็นกิจกรรมที่น้องๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากจำนวนเยาวชนที่สมัครมาที่เพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี โดยปีนี้ก็อยากให้น้องๆ เยาวชนตั้งใจร่วมทำกิจกรรมที่ดี และนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ในคลาสเรียนไปฝึกฝนต่อไป อย่างน้อยก็เพื่อสุขภาพที่ดีต่อตัวเอง นอกจากนี้จะเป็นการประกาศให้สังคมและผู้ใหญ่ได้เห็นว่า กิจกรรมที่เราชอบ ไม่ว่าจะเป็นบี-บอย, กราฟฟิตี้ หรือเต้นรำ ก็สามารถเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ได้ ถ้าเยาวชนตั้งใจอย่างจริงจัง และนำไปใช้ในเชิงสร้างสรรค์อย่างแท้จริง
มาที่ตัวแทนน้องๆ โดยเริ่มตัวแทนน้องจากกิจกรรมกราฟฟิตี้ กับน้องจีน-พิมพ์ชนก เมฆมัณฆนา ชั้น ม.2 โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ ที่บอกกับเราว่ามาร่วมกิจกรรมครั้งนี้เป็นครั้งแรก เพราะชื่นชอบการวาดรูปแนวกราฟฟิตี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ไม่ได้มีความรู้จริงๆ สักที เรียนรู้ผ่านภาพต่างๆ และจำมาใช้เท่านั้น การร่วมโครงการหวังว่าจะเป็นการสร้างความรู้ในเรื่องกราฟฟิตี้อย่างจริงจัง ผ่านวิทยากรที่มีความรู้ โดยน่าจะเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ที่น่าจะดีกว่าการอยู่บ้านเฉยๆ ในช่วงปิดเทอม
ต่อด้วย น้องแจ็ค-ณัทกฤช วชิรบุญเสริม ชั้น ม.4 จากโรงเรียนสาธิตพิบูลบำเพ็ญ มหาวิทยาลัยบูรพา ที่บอกกับเราว่าเคยมาร่วมโครงการแล้ว 1 ครั้งเมื่อปีที่ผ่านมา และได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดี พร้อมกับความรู้ ทำให้ปีนี้อยากสมัครมาร่วมโครงการอีกครั้ง เพื่อพัฒนาความสามารถของตนเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ และพบเพื่อนใหม่ เพื่อสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ระหว่างกันเพื่อทำให้การเต้น บี-บอย ของพวกเขาเป็นการเต้นในเชิงสร้างสรรค์ และมีผู้ใหญ่ให้ความสำคัญและมองในแง่ดีมากยิ่งขึ้น
ปิดท้ายที่น้องสาวจากกิจกรรมแดนซ์ ที่มีประสบการณ์ในโครงการนี้มาแล้วถึง 3 ครั้ง กับน้องมินท์-สุธัญสินี องอาจ ชั้น ม.5 โรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ ลำลูกกา ที่บอกกับเราว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมากๆ และตลอดเวลา 3 ครั้งที่ผ่านมาที่น้องมินท์ได้เข้าร่วมโครงการ ช่วยเสริมศักยภาพความสามารถในกิจกรรมการเต้นรำของน้องมินท์ได้เป็นอย่างดี
“ก็อยากจะให้มีกิจกรรมดีๆ อย่างนี้ทุกๆ ปี ถ้าเป็นไปได้อยากให้มีทั้งในช่วงปิดเทอมตุลาคม และปิดเทอมช่วงเดือนเมษายนเลยจะดีมากๆ ค่ะ เพราะจะเป็นทางเลือกให้เด็กและเยาวชนจะได้มีกิจกรรมที่ดีๆ ทำในช่วงปิดภาคเรียนอย่างที่พวกเขาสนใจ เพราะเด็กบางคนพอปิดเทอมไม่มีอะไรทำ อยู่บ้าน เล่นเกมไปวันๆ ไม่ได้เกิดประโยชน์ กิจกรรมที่ดีๆ อย่างนี้จะทั้งสนุกและเป็นสิ่งที่พวกเราชอบ และสามารถไปพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์ได้จริงๆ และในครั้งหน้าถ้าหากใครที่สนใจก็อยากจะชวนมาสมัครโครงการนี้กันให้มากๆ นะคะ” น้องมินท์ กล่าวในตอนท้าย
ทั้งนี้ ในการเวิร์คช็อปครั้งนี้ จะเป็นการเวิร์คช็อปขั้นพื้นฐาน ก่อนที่จะคัดเลือกน้องๆ จาก 200 คนเหลือ 120 คน เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปอย่างเข้มข้น 4 วัน 3 คืน ณ วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ต่อไป กิจกรรมจะเข้มข้น สนุกสนานแค่ไหน เราจะติดตามมานำเสนอต่อไป
ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
update : 27-10-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน