ตรวจเชื้อวัณโรคจากเลือด รู้ผลภายใน 24 ชม.

 

กรมวิทย์ฯ เผย แนวโน้มปัญหาวัณโรคของไทยอาจรุนแรงขึ้น เนื่องจาก 2 สาเหตุ คือ การแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี ซึ่งทำให้ผู้ติดเชื้อมีภูมิต้านทานต่ำ มีโอกาสติดเชื้อวัณโรคได้สูงกว่าคนปกติ และปัญหาเชื้อดื้อยาเพราะผู้ป่วยกินยาไม่ต่อเนื่อง ทำให้เชื้อดื้อยาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้จึงเร่งหาทางแก้ไข โดยใช้เทคนิคการตรวจเชื้อวัณโรคจากเลือดของผู้ป่วย ที่สามารถรู้ผลภายใน 24 ชม. ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการรักษาและช่วยให้ผู้ป่วยรู้ตัวเร็วขึ้น

นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกรายงาน 1 ใน 3 ของประชากรทั่วโลกติดเชื้อวัณโรค และจัดให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 22 ประเทศที่มีปัญหาวัณโรครุนแรง คาดว่าไทยมีผู้ป่วยวัณโรคทุกชนิดประมาณ 130,000 คน เสียชีวิตปีละกว่า 11,000 รายโดยร้อยละ 80 เป็นวัณโรคปอด สำหรับแนวโน้มปัญหาวัณโรคของไทยอาจรุนแรงขึ้นเนื่องจาก 2 สาเหตุ คือ การแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี ซึ่งทำให้ผู้ติดเชื้อมีภูมิต้านทานต่ำ มีโอกาสติดเชื้อวัณโรคได้สูงกว่าคนปกติ และปัญหาเชื้อดื้อยาเพราะผู้ป่วยกินยาไม่ต่อเนื่อง ทำให้เชื้อดื้อยาเพิ่มขึ้น ซึ่งทาง สธ.มีนโยบายสนับสนุนการควบคุมป้องกันวัณโรคอย่างเต็มที่ตลอดมา ตามข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก โดยเร่งทำงานเชิงรุกในการค้นหาผู้ป่วย การตรวจวินิจฉัยโรคและรักษาให้เร็ว เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของวัณโรค

นพ.นิพนธ์ กล่าวต่ออีกว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการศึกษาวิจัยและนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการตรวจวัณโรคเพื่อให้รู้ผลเร็ว จะช่วยให้การตรวจวินิจฉัย และการดูแลผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อวัณโรคมีประสิทธิภาพและลดการแพร่ติดต่อของโรคได้ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ใช้เทคนิคตรวจสารอินเตอร์เฟอรอนแกมมาจากตัวอย่างเลือด มีความจำเพาะสูงและรู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่การเพาะเชื้อวัณโรคใช้เวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์ จึงจะรู้ผล เนื่องจากเชื้อวัณโรคเจริญช้า และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นหน่วยงานแรกที่ทำการศึกษาวิจัย และนำเทคนิคนี้มาใช้เพื่อการวินิจฉัยผู้ติดเชื้อวัณโรคในประเทศไทยด้วยระบบคุณภาพสากล มีการใช้แพร่หลายมากขึ้น โดยใช้ตรวจการติดเชื้อวัณโรคในกลุ่มเสี่ยงต่างๆ เช่น ผู้สัมผัสผู้ป่วยวัณโรค ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ใช้ช่วยตรวจวินิจฉัยผู้สงสัยเป็นวัณโรคหรือผู้ป่วยวัณโรคที่เก็บเสมหะตรวจไม่ได้ ผู้ป่วยวัณโรคนอกปอด เป็นต้น

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

Shares:
QR Code :
QR Code