“ตรวจสุขภาพคนขับ-เช็ครถ” ก่อนเที่ยวสงกรานต์
ที่มา : คมชัดลึก
แฟ้มภาพ
โฆษกตร.จัดทีมแพทย์ตรวจคนขับรถโดยสาร ตร.จร.ตรวจสภาพรถเข้ม ก่อนเดินทางจากขนส่งหมอชิตลดอุบัติเหตุสงกรานต์
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร ฐานะ โฆษก ตร. พร้อมพล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพ่วง รอง ผบก.จร. พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.สน.บางซื่อ นำทีม แพทย์ พยาบาล จาก รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.จร และตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ลงพื้นที่อาคารผู้โดยสารตรวจเยี่ยมประชาชนที่เดินทางกลับและท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ตามโครงการ “ตรวจคน ตรวจรถ ก่อนขับ กลับบ้านปลอดภัย”
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า เนื่องจากในช่วงเทศสงกรานต์ที่จะถึงนี้เป็นช่วงวันหยุดยาวประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เป็นการแสดงความเคารพ และความกตัญญูต่อบิดามารดา ผู้ใหญ่ พร้อมทั้งรับคำอวยพรเพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิต ตามแบบประเพณีที่ทรงคุณค่าดังนั้นคาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารทยอยเดินทางออกจากกรุงเทพมหานครไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 10-13 เม.ย.จะมีผู้ใช้รถ บขส. รถร่วมบริการ และรถตู้โดยสารประมาณวันละกว่า 2 แสนคน
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุตั้งแต่ต้นตอ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ ดำเนินการหามาตรการในการป้องกันอุบัติเหตุเพื่อให้ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาจากรถโดยสารกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ จึงได้จัดโครงการ “ตรวจคน ตรวจรถ ก่อนขับ กลับบ้านปลอดภัย”
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้จะเห็นข่าวรถตู้และรถบขส. เกิดอุบัติเหตุจนมีการบาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่บ่อยครั้งซึ่งมีสาเหตุมาจาก คน ยานพาหนะ และสภาพแวดล้อม และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่นำพามาซึ่งความสูญเสีย ใน “เทศกาลแห่งความสุข” ซึ่งเป็นช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติจึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้นมา เนื่องจากคนขับรถโดยสารจะทำงานหนักกว่าช่วงปกติ เพราะมีอัตราการเดินทางสูง ความเหนื่อยล้าก็มากขึ้น โอกาสเกิดอุบัติเหตุก็มากขึ้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้จัดทีมแพทย์ พยาบาล จาก รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.จร และจราจรโครงการพระราชดำริ มาทำการตรวจคน ตรวจรถ ก่อนขับ ตรวจคนก็คือตรวจความพร้อมของ คนขับรถโดยสาร เพราะเป็นคนกุมชีวิตของใครต่อใครหลายคนบนรถ นอกจากตัวเอง และผู้โดยสารบนรถแล้ว ยังส่งผลไปยังคนอื่นๆที่ร่วมทางอีกด้วย คนขับรถจึงควรจะต้องพักผ่อนให้เพียงพอ หากสภาพร่างกายไม่พร้อมในการควบคุมรถจากสภาพร่างกายอ่อนเพลียจากการขับรถเป็นระยะเวลานานๆ มีโอกาสหลับในหรือการตัดสินใจของผู้ขับขี่ช้าลง และผู้ขับขี่ควรปฏิบัติตามกฎหมายจราจร เกี่ยวกับป้ายจราจรและเครื่องหมายจราจร ไม่ประมาทในการขับขี่ และที่สำคัญต้อง เมาไม่ขับ
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวอีกว่า ในวันนี้ทีมแพทย์จะทำการตรวจร่างกายของผู้ขับรถโดยสาร จะดูในด้านสภาพร่างกายของผู้ขับขี่ ว่ามีความอ่อนเพลียหรือไม่ การตรวจสายตา ประสาทสัมผัส ความสัมพันธ์ของประสาทสั่งการ ตลอดจนรณรงค์ให้ผู้ที่มีโรคประจำตัวตระหนักถึงอันตรายจากปัญหาสุขภาพและหลีกเลี่ยงการขับรถ สำหรับโรคที่เป็นอุปสรรคและต้องห้ามในการขับรถ ได้แก่ โรคความผิดปกติทางระบบการมองเห็น – การได้ยิน โรคจิตประสาท โรคลมชัก โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคระบบประสาทและสมอง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคกระดูกเสื่อม และโรคเบาหวานในระยะรุนแรง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำผู้ขับขี่มีความเสี่ยงจนทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงบนท้องถนนได้ และหากแพทย์ตรวจพบว่าผู้ขับขี้ไม่พร้อม ก็ต้องห้ามขับรถโดยเด็ดขาด
นอกจากนี้ทีมตำรวจช่าง จาก บก.จร.และตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ จะทำการตรวจรถตู้โดยสารและรถ บขส.ที่จะออกจากท่ารถ ตรวจความพร้อมของรถโดยสารทุกคันตามมาตรฐานความปลอดภัย เริ่มต้นจากการตรวจสภาพความเรียบร้อยภายนอกรถก่อน ตรวจเช็คระบบไฟส่องสว่าง ตรวจไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว ระบบขับเคลื่อนและอื่น ๆ หากตรวจแล้วรถคันดังกล่าวไม่มีความพร้อมใช้งานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่อนุญาตให้นำรถคันนั้นวิ่งส่งผู้โดยสารจะต้องนำรถคันอื่นที่มีความพร้อมมาเปลี่ยนจึงจะให้ออกวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ อย่างไรก็ตามประชาชนเองก็ควรตรวจเช็คสภาพรถให้พร้อม เตรียมร่างกายให้ดี ง่วงอย่าขับ เมาไม่ขับ ไม่ขับรถประมาทหวาดเสียว ไม่ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด เคารพกฎจราจร หากผู้ขับขี่ทุกคนปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2561 ได้เป็นอย่างดี