ดูแลสุขภาพ รับมืออากาศแปรปรวน

เตือน 37 จังหวัด ภาคเหนือ-อีสาน เตรียมรับมือหนาว ลมกระโชกแรง 26-27 ก.พ. แนะดูแลรักษาสุขภาพเป็นพิเศษ ตรวจสอบสภาพบ้านให้มั่นคง ห้ามหลบพายุใต้ต้นไม้ ป้ายโฆษณา


ดูแลสุขภาพ รับมืออากาศแปรปรวน thaihealth

แฟ้มภาพ


นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าช่วงวันที่ 26-27 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยจะอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและลมกระโชกแรง ปภ.จึงประสานผู้ว่าราชการจังหวัด 37 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี พิษณุโลก ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา น่าน และแพร่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุดรธานี เลย หนองบัวลำภู หนองคาย และบึงกาฬ เตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศแปรปรวน


นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย รวมถึงตรวจสอบสิ่งก่อสร้างและป้ายโฆษณาให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ตัดแต่งกิ่งไม้บริเวณริมถนนและพื้นที่ชุมชน อีกทั้งแจ้งเตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศแปรปรวน โดยดูแลรักษาสุขภาพเป็นพิเศษ สวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย ตลอดจนตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงห้ามหลบพายุบริเวณใต้ต้นไม้ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพราะอาจได้รับอันตรายจากการถูกล้มทับ


นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ส่วนเกษตรกรควรจัดทำที่กำบังปกคลุมพืชผลการเกษตร เพื่อป้องกันผลผลิตได้รับความเสียหายจากลมกระโชกแรง กรณีสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนในแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนสภาพอากาศหนาวเย็นและพายุลมแรง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป


 


 


ที่มา: เว็บไซต์ข่าวสด

Shares:
QR Code :
QR Code