ดูแลผิว-เลือกเสื้อกันหนาวมือสอง หลักสุขภาพดีคนวัยเก๋าช่วงอากาศเย็น

ที่มา : ไทยโพสต์


ดูแลผิว-เลือกเสื้อกันหนาวมือสอง หลักสุขภาพดีคนวัยเก๋าช่วงอากาศเย็น thaihealth


แฟ้มภาพ



                    การดูแลสุขภาพผิวช่วงหน้า ตลอดจนการเลือกเสื้อผ้าหรือเครื่องห่มกันหนาวที่สะอาดและปลอดภัย อีกทั้งช่วยรักษาอุณหภูมิให้กับคนสูงวัย นับเป็นการเซฟตี้สุขภาพคุณตาคุณยายให้พร้อมรับกับลมหนาวเย็นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่อยู่ทางภาคเหนือ และเพื่อเป็นการเซฟค่าใช้จ่าย มีหลายครอบครัวที่เลือกใช้อุปกรณ์กันความหนาวมือสอง จริงอยู่ที่เสื้อผ้าเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากผิวหนังของคนสูงอายุเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคต่างๆ ได้ค่อนข้างง่าย

                    พี่แอ้-พรวรินทร์ นุตราวงศ์ พยาบาลเกษียณอายุราชการ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ให้คำแนะนำในการดูแลผิวและเลือกใช้เสื้อผ้ามือสองที่ปลอดภัยมาแนะนำกัน

                    พยาบาลพรวรินทร์ บอกว่า “การบำรุงผิวของผู้สูงวัยไม่ให้แห้งกร้านในช่วงอากาศหนาวเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ดังนั้นเทคนิคของการเลือกครีมดูแลผิว ให้เลือกชนิดที่อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม เพื่อป้องกันการแพ้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ซึ่งเป็นครีมบำรุงผิวที่คล้ายกับของเด็กเล็กค่ะ เนื่องจากภูมิต้านทานของเด็กกับผู้สูงวัยจะมีลักษณะคล้ายกัน และทาทุกครั้งหลังอาบน้ำ อีกทั้งในช่วงอากาศหนาวเย็น ผู้สูงอายุไม่ควรอาบน้ำอุ่นจัดมากเกินไป (อุ่นพอประมาณ) เพราะจะยิ่งส่งผลให้ผิวแห้งกร้านมากยิ่งขึ้น

                     ส่วนการเลือกเสื้อกันหนาวมือสองไว้ใช้งานนั้น อันที่จริงผู้สูงอายุสามารถใช้อุปกรณ์กันหนาวดังกล่าวได้ เพราะเป็นเสื้อที่มีคุณภาพ แต่ต้องเลือกเนื้อผ้าให้กับร่างกายของคนสูงวัย ไม่หนา ขณะเดียวกันก็ต้องไม่บางจนเกินไป ถ้าจะให้ดีควรเลือกเสื้อกันหนาวมือสองที่มีขนน้อยที่สุด เพื่อป้องกันอาหารแพ้หรือกระตุ้นภูมิแพ้ขนสัตว์สังเคราะห์จากเสื้อผ้ากันหนาว
อีกทั้งทำจากผ้าที่ระบายอากาศได้ค่อนข้างดี ที่ลืมไม่ได้คือ ต้องแช่และซักให้สะอาดก่อนใช้งาน ไม่จำเป็นต้องลวกน้ำร้อน แต่ขอให้บริเวณที่ตากผ้านั้นมีแดดค่อนข้างจัด เพื่อฆ่าเชื้อโรคตามธรรมชาติ และควรกลับเสื้อกันหนาวด้านในออกข้างนอก


   ลักการดูแลสุขภาพที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในช่วงหน้าหนาว ที่อาจทำให้ออกซิเจนในร่างกายของผู้สูงอายุต่ำลง นั่นจึงทำให้ท่านเหนื่อยง่าย ดังนั้นจึงแนะนำให้ผู้สูงอายุแอคทีฟ หรือเคลื่อนไหวตัวเองอย่างช้าๆ โดยการออกกำลังกายอย่างช้าๆ และห้ามเอกเซอร์ไซส์ที่หนักเกินไปสำหรับคนวัยนี้ อย่างเช่น ถ้าเคยวิ่งออกกำลัง โดยการวิ่งวันละ 100 รอบสนามขนาดเล็ก ก็ควรให้งดในช่วงอากาศเย็น แต่ให้เดินแกว่งแขนช้าๆ ไปเรื่อยๆ โดยไม่หักโหม หรือผู้สูงอายุที่เดินออกกำลังกายวันละ 7,000 ก้าว ก็ให้ลดเหลือเพียง 5,000 ก้าวต่อวัน ก็จะทำให้ร่างกายเกิดความสมดุล ได้ขยับร่างกายที่ไม่มากจนเกินไป เพื่อป้องกันภาวะเหนื่อยหอบและเป็นลมหน้ามืดในช่วงที่อากาศเย็นค่ะ”. 


 

Shares:
QR Code :
QR Code