ชูกระจายอำนาจ ผุด ‘ตำบลแห่งความดีงาม’

ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


ชูกระจายอำนาจ ผุด 'ตำบลแห่งความดีงาม' thaihealth


"หมอประเวศ" ชี้สังคมไทยต้องใช้ "อริยะพัฒนา" กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเป็นตำบลแห่งความดีงาม เผยขยายเครือข่ายไปแล้วเกือบ 3,000 แห่ง พร้อมยก 789 ตำบลเป็นฐานเรียนรู้ทั่วประเทศ


ศ.นพ.ประเวศ วะสี กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "ชุมชนท้องถิ่น ฐานพัฒนาสุดยอดผู้นำ" ในงานเวทีสุดยอดผู้นำชุมชนท้องถิ่น วาระ "ลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ เพิ่มปัจจัยเสริมสุขภาวะ" ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า เมื่อท้องถิ่นเข้มแข็ง ก็ทำให้ประเทศเจริญ ปลอดภัย และการที่ท้องถิ่นจะเข้มแข็งได้ก็ต้องมีการกระจาย อำนาจสู่ท้องถิ่น ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นจากหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งเยอรมนี ญี่ปุ่น ที่แพ้สงครามโลก ครั้งที่ 2 แต่กลับเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ฉะนั้นหากมีการ เลือกตั้งตามโรดแม็พของรัฐบาล หลังเลือกตั้งคราวนี้ประชาชนควรเรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรคกระจายอำนาจสู่ ท้องถิ่นอย่างจริงจัง


ขณะเดียวกันในส่วนของผู้นำประเทศก็ควรมาจากท้องถิ่นหรือผู้นำตามธรรมชาติ เพราะท้องถิ่นเปิดโอกาสให้ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นคนสุจริต ฉลาด เห็นแก่ส่วนรวม ทำงานเก่ง จึงได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ซึ่งแตกต่างจากผู้นำที่มาจากการใช้วาทกรรมหรือใช้เงิน เพราะผู้นำตามธรรมชาติมีคุณภาพสูงกว่า


ชูกระจายอำนาจ ผุด 'ตำบลแห่งความดีงาม' thaihealth


ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า ในหมู่บ้านหนึ่งๆ จะมีผู้นำตามธรรมชาติประมาณ 50 คน หรือทั้งประเทศราว 4 ล้านคน ถ้าคนเหล่านี้ถูกส่งเสริมให้มีศักยภาพสูงสุด ก็จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมได้ ฉะนั้นจึงถือเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องร่วมกันทำให้เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อทุกตำบลจะได้เป็นตำบลสุขภาวะ เป็นตำบลแห่งความดีงาม หรือที่เรียกว่า "อริยะพัฒนา" แต่อย่างไรก็ตามจะมาถึงจุดนี้ ได้คนทั้งตำบลต้องรวมตัวกันเป็นประชาคมตำบล ฝันถึงเป้าหมายร่วมกัน คือตำบล สุขภาวะและดีงามที่สุด ขณะเดียวกันก็คิดว่าต้องทำอย่างไร ควรมีการจัดทำแผนตำบลหรือธรรมนูญพัฒนาตำบล และขับเคลื่อนพัฒนาตำบลอย่างบูรณาการ โดยมี 8 เรื่องเชื่อมโยงกัน ได้แก่ เศรษฐกิจ จิตใจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ การศึกษา ประชาธิปไตย


"ตอนนี้เรามี 789 ชุมชนที่กำลังจะยกเป็นชุมชนสุขภาวะลดปัจจัยเสี่ยง-เพิ่มปัจจัยเสริมสุขภาวะ ต่อไปภายในปี 2570 เรามีเป้าหมายจะทำเรื่องดีๆ เหล่านี้ให้ทั่วถึงและครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อฉลอง พระชนมายุครบ 100 ปี รัชกาลที่ 9" ศ.นพ.ประเวศ กล่าว


ด้าน น.ส.ดวงพร  เฮงบุณยพันธ์ ผอ.สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สสส. กล่าวถึงสถานการณ์การพัฒนาสุขภาวะเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ จากการจัดเก็บฐานข้อมูลสุขภาวะเครือข่ายที่ทำงานรวมกับสสส. มีทั้งหมด 2,863 ท้องถิ่นจำนวน 8.8 ล้านคน ใน 2.7 ล้านครัวเรือน หรือคิดเป็นร้อยละ 13.3 ของประชากรทั้งประเทศ 66 ล้านคน ซึ่งสิ่งที่เราพยายามตอกย้ำพื้นที่เครือข่าย คือหากเราจะทำให้ชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็งนอกเหนือจากการมีสุดยอดผู้นำแล้วต้องเชี่ยวชาญในการใช้ข้อมูลและมีคณะทำงาน เราพยายามกระตุ้นให้สุดยอดผู้นำชุมชนท้องถิ่นมีสำนึกสาธารณะในเรื่องที่ความรู้ชัด วิธีปฏิบัติก็ไม่ยาก ผู้ร่วมมือเยอะ ซึ่งหลังจากนี้ทั้ง 789 ตำบลที่อยู่ในเครือข่ายจะต้องเป็นฐานเรียนรู้ให้อีก 7,000 ตำบลทั่วประเทศ  และเป็นฐานการขับเคลื่อนประเทศและยกระดับพัฒนาเป็นแผนยุทธศาสตร์ชาติต่อไป

Shares:
QR Code :
QR Code