‘ชุดสังฆทาน’ ไม่ควรนำอาหารปนของใช้

/data/content/25052/cms/e_acgijklptvw8.jpg


          สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เตือนประชาชนที่ทำบุญถวายสังฆทาน ไม่ควรนำอาหารและของใช้ใส่ปนกัน เพราะอาจทำให้กลิ่น หรือรสชาติอาหารเปลี่ยนไป


          นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ช่วงเข้าพรรษานี้ พุทธศาสนิกชนมักนิยมทำบุญถวายสังฆทาน เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ยังพบปัญหาการจำหน่ายชุดสังฆทานที่มีผู้จำหน่ายบางรายนำผลิตภัณฑ์อาหารและของใช้รวมอยู่ในชุดเดียวกัน ทำให้เกิดกลิ่นหรือรสของอาหารเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งมีสินค้าที่ หมดอายุ ตลอดจนนำสิ่งของที่พระภิกษุสงฆ์ไม่จำเป็นต้องใช้บรรจุในชุดถังสังฆทาน


          สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอให้เจ้าของร้านเครื่องสังฆภัณฑ์ หรือร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่มีการจำหน่ายถังสังฆทาน ควรคัดเลือกผลิตภัณฑ์ อาหารที่มีคุณภาพมีประโยชน์มาจัดใส่ในถัง เช่น ข้าวสาร น้ำปลา โอวัลติน ขนมปังกรอบ นมข้นหวาน น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว น้ำพริกเผา น้ำดื่ม หรืออาหารกระป๋องต่างๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่นำมาบรรจุก่อน ถึงวันหมดอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน หากเป็นอาหารกระป๋อง ต้องมีเครื่องหมาย อย. ที่มีเลข 13 หลัก บนฉลาก รวมทั้งภาชนะบรรจุต้องไม่มีรอยบุบ บิดเบี้ยว หรือรอยแตกรั่ว หรือบวม


          ที่สำคัญขอให้ผู้จำหน่ายชุดสังฆทานทุกราย ประชาชนที่จะจัดถังสังฆทานด้วยตนเอง ควรจัดชุดสังฆทานที่เป็นของใช้และอาหารแยกออกจากกัน อย่าได้นำผลิตภัณฑ์อาหาร หรือผลิตภัณฑ์ยา มาใส่ปะปนกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์วัตถุอันตราย เช่น ครีมอาบน้ำ สบู่ แชมพูสระผม น้ำยาบ้วนปาก ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยากันยุง ผลิตภัณฑ์กำจัดแมลง เป็นต้น เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีสารที่อาจเป็นอันตราย และมีกลิ่น อาจจะถ่ายเท รวมถึงดูดซึมเข้าไปในผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ยา ทำให้เป็นอันตราย ภิกษุสงฆ์ได้


 


 


          ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า 

Shares:
QR Code :
QR Code