ชี้ไทยมีจุดอ่อนเรื่องสิทธิทางเพศ

แนะครอบครัวต้องดูแลลูกใกล้ชิด

 

 

            ข่าวคราวการพบซากศพเด็กทารกกว่า 2 พันศพที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้สร้างความตื่นตระหนกและเศร้าสลดในแก่คนทั้งประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นยังพบอีกว่าซากศพทั้งหมดนี้มาจากสถานบริการ ทำแท้ง เถื่อนกว่า 5 แห่ง ได้ยินแล้วถึงกับอึ้ง…เพราะนี้ถือเป็นตัวบ่งบอกถึงภัยร้ายของผู้หญิงปัจจุบันในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายหน่วยงานพยายามเร่งแก้ไข…

 

            การทำแท้งในสังคมไทยถือว่าเป็นบาปอย่างร้ายแรง แต่หลายคนก็ไม่ได้เกรงกลัวเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะเชื่อว่าบาปกรรมไม่มีตัวตนและมองไม่เห็น จึงเลือกที่จะทำเพื่อสนองความต้องการที่เป็นอยู่ให้มีความสุขสบาย

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ่ำอีก แต่ครั้งนี้ถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก โดยเราต้องเร่งแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งผู้รับผิดชอบต้องร่วมกันรับผิดชอบ ไม่ใช่ผู้หญิงเพียงฝ่ายเดียว แต่ผู้ชายที่เป็นฝ่ายที่กระทำให้เกิดขึ้น ก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วยเช่นกัน แต่ในขณะเดียวกันเราต้องช่วยกันแก้ปัญหา ด้วยการนำเสนอความรู้ ความเข้าใจ เพื่อนำไปสู่การป้องกันที่ถูกต้องปลอดภัย และเหมาะสมกับวัยที่ควรจะมีเพศสัมพันธ์ โดยสาเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดการทำแท้ง มาจากความไม่รับผิดชอบของผู้ชาย ฝ่ายหญิงถูกหลอก การขาดความรู้ และมีความเชื่อผิดๆ เช่น การหลั่งข้างนอก นับวันหน้า 7 วันหลัง 7 วัน ถือว่าเป็นบ่อเกิดของการตั้งท้อง นอกจากนี้ผู้ที่ทำแท้งส่วนใหญ่ไม่ได้มีเฉพาะวัยรุ่น แต่ยังมีวัยทำงานรวมอยู่ด้วย โดยมักจะอ้างว่ายังไม่พร้อมที่จะมีลูก…

 

และถ้าพูดถึงวิธีการป้องกัน การคุมกำเนิดทุกวิธีมีโอกาสท้องได้หมด ไม่ว่าจะเป็นการทำหมัน กินยา หลั่งข้างนอก หรือสวมถุงยางก็ตาม อยู่ที่ว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหน ส่วนแนวทางการแก้ปัญหานั้นคือ ต้องสร้างความเข้าใจ การรณรงค์ส่งเสริมให้มีความรับผิดชอบของทั้งหญิงและชาย ให้มีความรับผิดชอบร่วมกัน และให้ความรู้เกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ให้มากขึ้น เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความรู้ให้ประชาชน เพื่อเป็นการป้องกันจากต้นเหตุ” น.ส.สุเพ็ญศรี กล่าว

 

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจถือว่าเป็นส่วนน้อยมากในสังคม เพราะจากข้อมูลพบว่าคนไทยมีสถิติทำแท้งสูงถึงประมาณ 2 แสนรายต่อปี

 

          ด้าน นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผอ.สถาบันครอบครัว กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยิ่งปรากฏให้เห็นชัดว่า ปัญหาการทำแท้งน่าจะซุกซ่อนอยู่ใต้พรมอีกไม่น้อย เพราะภาพที่ปรากฎเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะสังคมไทยยังมีจุดอ่อนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่อง สิทธิทางเพศ แม้จะมี พ.ร.บ.คุ้มครองอนามัยเจริญพันธุ์ แต่เป็นกฎหมายที่ไม่ครอบคลุมเรื่องสิทธิทางเพศโดยเฉพาะเวลาเด็กเผชิญปัญหาการตั้งครรภ์หรือมีเพศสัมพันธ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยเหลือ ดูแลอย่างไร มีเพียงการให้ความรู้เรื่องเพศศึกษารอบด้าน รณรงค์ให้เข้าถึงข้อมูลการแก้ปัญหาด้วยการสามารถลาคลอด กลับมาเรียน หรือมีบ้านฉุกเฉินรองรับ กฎหมายคุ้มครองอนามัยเจริญพันธ์ต้องครอบคลุมในทุกมิติและมีความหลากหลายรอบด้าน ตัวอย่างเช่น หากวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์หรือเกิดการตั้งครรภ์ การจะปรึกษาพ่อแม่ผู้ใหญ่ ครู หรือแม้แต่หมอ โดยฐานเดิมของเด็กก็ไม่กล้าอยู่แล้วและไม่แน่ใจว่าหากพูดแล้วจะได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างไร เรื่องเหล่านี้สำคัญ แต่กฎหมายคุ้มครองอนามัยเจริญพันธ์ไม่ได้พูดถึง จึงแก้ปัญหาได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น

 

            ภาพที่เกิดขึ้นคงจะเป็นตัวกระตุ้นให้หลายหน่วยงานหันมาสนใจ ร่วมมือกันแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง อีกทั้งปราบปรามสถานบริการทำแท้งเถื่อนให้หมดไปจากสังคมเสียที และที่สำคัญครอบครัวจำเป็นต้องดูแล ให้ความอบอุ่นแก่ลูกอย่างใกล้ชิด พูดคุยให้ความสำคัญแก่เด็ก เพื่อลดช่องว่างระหว่างกันลง เมื่อเด็กเกิดปัญหาใดๆ จะได้กล้าที่จะเปิดใจพูดความจริงกับพ่อแม่ อีกทั้งจำเป็นต้องให้ลูกรู้จักรักนวลสงวนตัวไว้ และต้องสอนให้รู้จักให้เกียรติผู้หญิงด้วยเช่นกัน

 

อย่าปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้ลุกลามไปเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ อย่ามองเป็นเรื่องไกลตัว เพราะถ้าวันหนึ่งเรื่องที่มองว่าไกลตัวขยับเข้ามาใกล้เรา เกิดขึ้นกับคนรู้จัก คนรอบข้าง ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่กับตัวเองและจะทำอย่างไร???

 

 

 

 

 

เรื่องโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

 

 

Update:23-11-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ