ชีวิตเสี่ยงกับโรคปอด ที่เกิดจาก "บุหรี่"

ที่มา : จดหมายข่าวชุมชนคนรักสุขภาพ ฉบับสร้างสุข ประจำเดือนพฤษภาคม 2562


ชีวิตเสี่ยงกับโรคปอดที่เกิดจากบุหรี่ thaihealth


แฟ้มภาพ


ปอด เป็นสิ่งที่เมื่อเสียหายไปแล้วจะเสียหายถาวร ลองนึกภาพถุงลมเล็ก ๆ หลายล้านถุงในปอดทำงานไม่ได้ หายใจเข้าก็ไม่พอง หายใจออกก็ไม่ได้ สภาพจะเหมือนคนจมน้ำแบบนั้น


รศ.นพ.สุทัศน์ รุ่งเรืองหิรัญญา อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คุณหมอเจ้าของแนวคิด “คลินิกฟ้าใส” คลินิกให้บริการเลิกบุหรี่ สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เล่าว่า ในฐานะหมอที่ต้องดูแลคนไข้ที่เจ็บป่วยจากการสูบบุหรี่มายาวนาน โรคจากการสูบบุหรี่นั้น เป็นโรคที่เกิดหลังจากพฤติกรรมเสี่ยงของตัวเองยาวนาน 10-20 ปี หลายคนเลยไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่โรคจากบุหรี่เป็นโรคที่เมื่อเกิดผลกระทบแล้วจะย้อนกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้ รักษาไม่หาย


ชีวิตเสี่ยงกับโรคปอดที่เกิดจากบุหรี่ thaihealth


คนไข้หลายรายเมื่อล้มป่วย ไม่ได้ป่วยแค่คนเดียว แต่กระทบไปถึงครอบครัว โดยเฉพาะเมื่อผู้ชายเป็นเสาหลัก เมื่อป่วยก็ทำงานไม่ได้ ภรรยาต้องออกจากบ้านไปหางานทำแทน บางบ้านลูกยังเรียนไม่จบ ก็หมดอนาคตทางการศึกษา เพราะไม่มีเงินเรียนต่อ ต้องออกมาช่วยทางบ้าน ไหนจะหาเงินรักษา ไหนจะอยู่กิน กลายเป็นโดมิโน่ ล้มคนเดียวก็ล้มไปทั้งบ้าน


คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยจากบุหรี่ โดยเฉพาะถุงลมโป่งพอง หลอดลมอุดกั้น มะเร็ง จะใช้ชีวิตด้วยการเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาล ต้องใช้เงินแต่ละเดือนเป็นค่ายาจำนวนมาก และยิ่งใช้มากขึ้นเมื่อโรคลุกลาม บางรายมาโรงพยาบาลทุก 2-3 วัน สุดท้ายก็กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงใส่ท่อช่วยหายใจรอวันสิ้นลม ทรมานนับเดือน นับปี


ชีวิตเสี่ยงกับโรคปอดที่เกิดจากบุหรี่ thaihealth


สิ่งที่ตามมาคือ เรื่องคุณภาพชีวิตและสภาพทางจิตใจ คนป่วยถุงลมโป่งพอง 70% มีโรคซึมเศร้าแทรกด้วย เพราะจากคนที่สามารถช่วยตัวเองได้ทุกอย่าง เดินรับประทานข้าว เข้าห้องน้ำเอง จะต้องกลายเป็นคนที่พึ่งพาคนอื่นร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะบางครั้งแค่ยกช้อนเข้าปากเองยังทำไม่ได้เพราะเหนื่อยมาก


“ภาพที่หมอเห็นบ่อยครั้งคือ คนไข้ถุงลมโป่งพองระยะสุดท้ายต้องใส่ท่อช่วยหายใจ บางรายนอนในโรงพยาบาล 3 เดือน ก่อนที่จะเสียชีวิต โดยที่รู้ตัวทุกลมหายใจแต่ทำอะไรไม่ได้ ต้องคาบท่ออยู่ตลอดเวลา ลูกคนไข้เคยบอกว่า ทนเห็นพ่อทรมานแทบไม่ไหว เจ็บปวดแทนทุกครั้งที่มาข้างเตียง พ่อยกมือชี้ท่อช่วยหายใจขอให้เอาออก ไม่ไหว ทรมาน แต่ในทางการแพทย์ไม่สามารถเอาออกได้โดยทันที ต้องจากไปตามกระบวนการธรรมชาติ”


ชีวิตเสี่ยงกับโรคปอดที่เกิดจากบุหรี่ thaihealth


เคสล่าสุดของหมอ คนไข้เป็นถุงลมโป่งพองระยะสุดท้ายเพิ่งเสียชีวิตไป คนไข้เข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาล เข้าห้องฉุกเฉิน แก้ไขภาวะหลอดลมตีบทุก 3-4 วัน สุดท้ายมาใส่ท่อช่วยหายใจที่โรงพยาบาลในไอซียู สลับกับเอาออกเมื่ออาการดีขึ้น คนไข้บอกว่า หลังถอดท่อรู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่สูบบุหรี่ จะได้ไม่ทรมานขนาดนี้ ไม่ต้องรบกวนลูกเมีย ผลาญเงินทองที่ทำมาหากินมาตลอดชีวิต ไม่อยากตายอย่างทรมาน แต่สุดท้ายคนไข้ก็จากไปด้วยอาการเสมหะติดคอ เพราะคนไข้ไม่มีแรงไอออกมา


“หมอไม่อยากให้ใครเอาชีวิตมาเสี่ยงกับโรคปอดที่เกิดจากบุหรี่ ทุกครั้งที่จุดไฟสูบ ก็เหมือนจุดไฟเผาชีวิตตัวเอง และกำลังเผาชีวิตคนที่คุณรักไปด้วย การสูบบุหรี่ไม่ต่างจากการก่อให้เกิดโศกนาฎกรรมในบ้านเราเอง เพราะผลกระทบไม่ใช่คนเดียว เมื่อเราป่วยคนในบ้านก็เดือดร้อนไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ความมั่นคง รายได้ครัวเรือน อยากให้คนสูบบุหรี่คิดทุกครั้งที่จุดบุหรี่ ไม่ได้เผาทำลายแค่เนื้อปอดตัวเอง แต่ทำลายครอบครัวด้วย”


อนาคตของเรา เราเลือกได้ว่าจะจบแบบไหน… เลิกบุหรี่โทร 1600

Shares:
QR Code :
QR Code