ที่มา : ไทยโพสต์

ภาพประกอบจาก สสส. 

ทุกหนึ่งนาทีจะมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบน ท้องถนนอย่างน้อย 6 คน ต้นเหตุอันดับต้นๆ มาจากดื่มแล้วขับ ขับซิ่ง ไม่สวมใส่หมวกนิรภัย ซึ่งในช่วงเทศกาลจะมีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนสูงกว่าช่วงปกติ โดยเฉพาะ 7 วันอันตรายช่วงสงกรานต์แต่ละปี มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจำนวนมาก

รายงานศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน 7 วันอันตราย ปี 2562 ชี้ให้เห็นว่า เกิดเหตุ 3,338 ครั้ง บาดเจ็บ 3,442 ราย เสียชีวิต 386 ราย และในปี 2563 เกิดเหตุ 1,307 ครั้ง บาดเจ็บ 1,260 ราย เสียชีวิต 167 ราย ขับเร็วและดื่มแล้วขับครองแชมป์ ส่วนพฤติกรรมเสี่ยงสำคัญช่วงสงกรานต์ คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 59 จักรยานยนต์กลายเป็นพาหนะเกิดอุบัติเหตุสูงสุด ร้อยละ 79 ถัดมารถปิกอัพ และกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 17

รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สงกรานต์ปีนี้มีวันหยุดยาวติดต่อกัน 6-9 วัน จำนวนผู้เดินทางทั้งกลับบ้านและท่องเที่ยวจะมากกว่าปีที่ ผ่านมา ที่หลายคนไม่ได้กลับบ้านเพราะโควิด-19 คาดว่า อุบัติเหตุที่สูงอยู่แล้วจะมากขึ้น

"การลดอุบัติเหตุท้องถนนต้องเริ่มต้นด้วยตนเอง เตรียมพร้อมรถยนต์ อุปกรณ์ต่างๆ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สงกรานต์ปีนี้ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ไม่ควรดื่มแล้วขับ ถ้าไม่มั่นใจว่า เส้นทางหลักควรขับขี่ด้วยความเร็วเท่าใด ให้ขับขี่ไม่เกิน 80 กม.ต่อ ชม.ดีที่สุด หากเป็นพื้นที่ชุมชน หน้าโรงเรียน ตลาด ต้องลดความเร็ว ไม่ให้เกิน 50 กม. ควรสวมใส่หมวกกันน็อกทุกครั้งที่ขับขี่มอเตอร์ไซต์ ลดความสูญเสีย" รุ่งอรุณ กล่าว

หนึ่งในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน คือ กิจกรรม "ชีวิตวิถีใหม่ สงกรานต์ดื่มไม่ขับ คิดถึงกลับให้ถึงอย่างปลอดภัย" ที่ สสส. ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายอุบัติเหตุ (สคอ.) สร้างการรับรู้ลดอุบัติเหตุ เพิ่มความตระหนักขับขี่ปลอดภัยในแบบชีวิตวิถีใหม่แก่ ผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กิจกรรมนี้รณรงค์ทั่วประเทศ

สุรินทร์ หอมชื่นใจ กำนันตำบลแสลงพัน อ.วังม่วง จ.สระบุรี กล่าวว่า อ.วังม่วง จัดกิจกรรมเชิงรุกป้องปรามอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ต่อเนื่อง เน้นตั้งด่านชุมชนสกัดนักดื่มบนถนนสายหลักและสายรอง การทำงานพบว่า ถนนสายรองมีอุบัติเหตุมากขึ้น เพราะคนมองว่า ขับในชุมชนไม่น่าจะเกิดอันตราย โดยเฉพาะนักดื่ม

"ช่วงเทศกาลและหลังเทศกาล ชุมชนตั้งด่านสกัดนักดื่ม มีการวิเคราะห์จุดเสี่ยงด่านรอง ให้ความรู้การขับขี่ปลอดภัย และมีมาตรการใครดื่มแล้วขับ จะยึดรถ โดยให้ญาติพี่น้อง รวมถึงนักดื่ม มาเป็นผู้รับรถคืน เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ผู้ที่เดือนร้อนอันดับแรก คือ ครอบครัว ดังนั้น ทุกคนในครอบครัว ชุมชน ต้องช่วยกันดูแลปฎิบัติตามกฎจราจร ลดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสีย" สุรินทร์ กล่าว

 

จำนวนผู้เสียชีวิตบนท้องถนน ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กและเยาวชน จำเป็นต้องสร้างความตระหนักให้มากขึ้น และเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยให้เด็ก

พชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว ปัญหาหลักของเด็กและเยาวชนจะมองว่า สวมหมวกกันน็อกไม่เท่ห์ และขับขี่ด้วยความเร็วเป็นความท้าทาย หลายคนแต่งรถซิ่ง เพื่อนบ้านลาวก็เจอปัญหาเยาวชนไม่สวมหมวกกันน็อก ภาครัฐส่งเสริมให้พวกเขาออกแบบหมวกกันน็อคเอง ตอนนี้เกิดกระแสค่านิยมสวมหมวกกันน็อกมากขึ้น

เลขาธิการฯ เห็นว่า ต้องสร้างค่านิยมใหม่ในกลุ่มเด็กและเยาวชนว่าไม่สวมหมวกกันน็อก ขับเร็ว แต่งรถ เป็นเรื่องเอาท์สำหรับยุคนี้ และทำให้รู้ว่าการไม่สวมหมวกกันน็อกน่ากลัวอย่างไร รวมถึงใช้การสื่อสารแบบเพื่อนเตือนเพื่อนด้วยความห่วงใยกัน และต้องทำให้เกิดการรับรู้การขับขี่อย่างปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง สงกรานต์นี้ถือโอกาสปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่ที่ปลอดภัย ไม่เพิ่มความเสี่ยงทั้งต่อตนเองและผู้อื่น

สำหรับผู้ที่จะเดินทางกลับบ้านช่วงปีใหม่ไทยนี้ พรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 พบว่า มีประชาชนกลุ่มหนึ่งไม่ใช้รถสาธารณะในช่วงเทศกาล แต่จะขับจักรยานยนต์กลับบ้านต่างจังหวัด แต่การเดินทางระยะเวลายาวนาน และร่างกายไม่เคยชิน ทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างขับขี่ สงกรานต์ปี 64 แม้รัฐประกาศงดเล่นน้ำ งดกิจกรรมสุ่มเสี่ยง บางพื้นที่งดขายแอลกอฮอล์ เป็นสิ่งที่ดีมาก แต่การเดินทางข้ามจังหวัดเป็นกิจกรรมที่กำลังจะ เกิดขึ้น ฝากให้ขับขี่กลับบ้านต่างจังหวัดและเดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย เลี่ยงขับมอเตอร์ไซต์ข้ามจังหวัด ถ้าไม่คุ้นชินทาง สภาพร่างกายไม่พร้อม

ในช่วง 7 วันอันตราย ผอ.สคอ. กล่าว ก่อนวันสงกรานต์จะมีผู้เดินทางกลับบ้านต่าง พบว่า มีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุท้องถนนจากความรีบร้อน ไม่ได้พักผ่อน รวมถึงขับรถข้ามเขตแล้วมีรถตัดหน้า รวมถึงขับรถด้วยความเร็ว สงกรานต์ปีนี้ขอให้ตรวจสอบสภาพรถ เส้นทาง เตรียมอาหาร สภาพร่างกายให้พร้อม อย่าขับรถเร็ว รวมถึงถ้ามีภาวะสุ่มเสี่ยงโควิด-19 ควรจะอยู่บ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรค