ชวนน้องออกกำลังกายสไตล์ “ฮีโร่”

 

หนึ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันต่อปัญหาสังคมที่รายล้อมรอบตัวเด็กและเยาวชนไทย ต้องยกให้ “การออกกำลังกาย” ฮีโร่ช่วยเด็กให้รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ช่วยห่างไกลยาเสพติด และเกมคอมพิวเตอร์

การออกกำลังกายเป็นยาขมสำหรับผู้ใหญ่วัยทำงาน บ้างเหนื่อย อ้างไม่มีเวลา แต่สำหรับเด็กๆ แล้ว การเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย เปรียบเสมือนขนมหวาน ที่ทานเมื่อไรก็อร่อยลิ้นสำราญกาย พวกเขาไม่กลัวเหงื่อ ไม่อิดออด จึงมุ่งหวังให้ผู้ใหญ่ในสังคม หันมาให้ความสำคัญ เปิดเวที และเพิ่มพูนทักษะให้เก่งขึ้น เทียบเท่าระดับนักกีฬาทีมชาติก็ยิ่งดี

ย้อนไปเมื่อปลายปีที่แล้ว พ่อแม่หลายคนเล่าให้ฟังว่าพวกเขาพาลูกๆเข้าร่วมกิจกรรมกับ โครงการ “พี่สอนน้องชวนกันออกกำลังกาย” ซึ่งจัดโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ซึ่งเข้ามาสนับสนุนในการเปิดศูนย์กีฬาในสังกัด กทม.ให้น้องๆ เยาวชนได้มีสถานที่ฝึกซ้อมกัน

เยาวชนอายุระหว่าง 10-15 ปี ทั้งชายและหญิงในพื้นที่ใกล้เคียงศูนย์กีฬาฯ ทั้ง 5 แห่ง อย่าง ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร ตามด้วย ศูนย์กีฬารามอินทรา เขตบางเขน ส่งไม้ต่อให้ ร.ร.ทวีธาภิเศก เขตบางกอกใหญ่ และยื่นไม้ต่อให้ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ เขตทุ่งครุ ก่อนมาปิดท้ายที่ศูนย์เยาวชนคลองเตย เขตคลองเตย ได้เปิดพื้นที่ให้เด็กๆ เยาวชนฝึกซ้อมกีฬา 5 ชนิดกีฬา คือ วอลเล่ย์บอล ฟุตบอล ฟุตซอล บาสเก็ตบอลและว่ายน้ำ ผ่านการให้ความรู้โดยวิทยากร ทั้งนักกีฬา และอดีตนักกีฬาทีมชาติ อดีตโค้ชทีมชาติอย่างใกล้ชิด

น้องยูฟ่า นิธิพงศ์ โตเจริญชัย อายุ 15 ปี ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และเป็นนักฟุตซอลของโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย 2 จังหวัดนครปฐม เป็นหนึ่งในเยาวชนที่ตัดสินใจคว้าโอกาสเข้าร่วมโครงการนี้ เพราะมีความฝันที่จะก้าวให้ถึงทีมชาติในวันข้างหน้า มันช่วยให้เขาได้เดินทางสู่ความฝัน โดยเข้าร่วมเป็นปีที่ 2 แล้ว

พ่อแม่ของน้องยูฟ่า บอกว่า ลูกสนใจในกีฬาฟุตซอลตั้งแต่อายุ 11 ปี ซึ่งพวกตนก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เพราะเชื่อว่าการออกกำลังกายเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และทำให้ลูกชายห่างไกลจากเกมคอมพิวเตอร์ ยาเสพติด และสุขภาพยังแข็งแรง ยิ่งไปกว่านั้น การเล่นฟุตซอลซึ่งเป็นกีฬาประเภททีม ยังช่วยให้ได้เรียนรู้การเล่นประสานแบบทีมเดียวกัน และการมีน้ำใจนักกีฬา

และแม้ว่าบ้านพักจะอยู่ไกลถึงนครปฐม ยูฟ่าก็ไม่เคยอิดออดเวลาที่ต้องตื่นเดินทางมาให้ทันตารางการฝึกซ้อมที่จะเริ่มแต่เช้าในทุกวันเสาร์-อาทิตย์

น้องเล่าถึงการแบ่งเวลาในการเรียนและเล่นกีฬาว่า โชคดีที่พ่อและแม่เข้าใจ และส่งเสริมให้ลูกๆเล่นกีฬา คุณพ่อคุณแม่บอกแต่เพียงว่าไม่ต้องเรียนได้ที่หนึ่ง แต่ขอให้ไม่ทิ้งการเรียน และแบ่งเวลารับผิดชอบ และการฝึกซ้อมให้ดี เพื่อไม่ให้มีปัญหาเท่านั้น

กิจวัตรประจำวันของยูฟ่าไม่เพียงแต่การซ้อมหนักที่โรงเรียนหลังจากเสร็จสิ้นจากการเรียนวันละสองชั่วโมง 5 โมงเย็นถึง 1 ทุ่มทุกวัน แต่ยูฟ่ายังสนใจและติดตามข่าวสารของวงการฟุตซอลตลอด หากมีแม็ตช์แข่งที่ไม่ไกลนัก เขาและพ่อก็จะเดินทางไปชมเสมอ เพื่อศึกษาเทคนิคและวิธีการการเล่น ทั้งยังมีขวัญใจ คือ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง นักฟุตซอลเบอร์หนึ่งของทีมชาติไทยในชุดปัจจุบัน ซึ่งเป็นไอดอลของเขา และเป็นแรงบันดาลใจจะก้าวไปให้ถึงจุดนั้นบ้างในวันข้างหน้า

“ผมต้องการพัฒนาทักษะการเล่นฟุตซอลให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้เทคนิคพิเศษในเกมการแข่งขันซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการพัฒนาประสบการณ์ตัวเองสำหรับนักกีฬา ผมได้เรียนรู้วิธีชิ่งบอล การล็อกบอลหลบคู่ต่อสู้จากพี่โค้ชแมว (คำรณ สำราญพันธ์ อดีตโค้ชฟุตซอลและนักฟุตบอลทีมชาติ) ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้เป็นอย่างดี นี่เป็นการเปิดโอกาสให้กับผมกับเพื่อนเยาวชน ได้ใกล้ชิดกับพี่ๆ โค้ชและพี่นักเตะฟุตซอลทีมชาติ ได้มาเรียนรู้การเล่นฟุตซอล อย่างถูกต้อง ซึ่งพี่ๆ สอนตั้งแต่พื้นฐานการเล่น การจับบอล แปบอล ส่งบอล การยิงประตู การเล่นเป็นทีม การขึ้นเกม การตั้งรับ เสร็จจากโครงการนี้คงต้องกลับไปฝึกซ้อมทบทวนให้มากขึ้น” ยูฟ่ายิ้ม และบอกเป้าหมายของการเล่นฟุตซอลว่า ต้องการก้าวไปติดธงทีมชาติไทยซักครั้ง เพื่อเป็นเกียรติประวัติต่อตัวเองและวงศ์ตระกูล

ยูฟ่า ในฐานะรุ่นพี่จึงอยากชวนน้องๆ เพื่อนๆ เข้ามาสนุกกับโครงการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แถมยังมีชุดกีฬาและอาหารกลางวันให้ตลอดระยะการอบรมด้วย และยังเหลือสนามสุดท้ายที่ศูนย์เยาวชนคลองเตย เขตคลองเตย ที่จะอ้าแขนต้อนรับเด็กๆ เข้าสู่โลกกีฬาฟุตซอล และบาสเกตบอล วันที่ 9-10 กุมภาพันธ์ 2556 น้องๆ ที่สนใจสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.siamsport.co.th หรือโทร 02-508-8274 ได้ทุกวันในเวลาราชการ

เมื่อผู้ใหญ่เปิดพื้นที่ “ฝึกกาย” ให้แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับเด็กๆ แล้วว่าจะเดินเข้าไปหา “ประสบการณ์ใหม่ๆ” ของตัวเองหรือเปล่า

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ