ชม “บั้งไฟพญานาค” ไม่ผิดหวัง
แต่นักท่องเที่ยวลดฮวบ เหตุน้ำท่วม
นักท่องเที่ยวริมฝั่งโขงรอชมบั้งไฟพญานาคไม่ผิดหวัง เมื่อดวงไฟลูกแรกโผล่ให้ยลโฉมตั้งแต่หัวค่ำ และเกิดต่อกันถึง 27 ลูกที่ อ.รัตนวาปี แต่ปีนี้นักท่องเที่ยวลดฮวบต่างจากปีที่แล้วลิบลับ คาดสาเหตุมาจากผลกระทบน้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคอีสาน ส่วนปัญหาแก๊งซิ่งกวนเมืองกับแก๊งปาประทัดยังแก้ไม่ตก
บรรจบครบรอบอีกปี ในวันออกพรรษาประชาชนจะแห่มาเฝ้าดูบั้งไฟพญานาค ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติในลำน้ำโขง และปีนี้ไม่ผิดหวัง เมื่อลูกไฟพุ่งโชว์ให้ชมเป็นขวัญตาหลายลูก โดยผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ถึงบรรยายกาศการรอชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคริมฝั่งแม่น้ำโขง หน้าวัดไทย ในเขตเทศบาลตำบลโพนพิสัย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย มีประชาชนและนักท่องเที่ยวปูเสื่อกางเต็นท์รอชมปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติตั้งแต่ช่วงเที่ยงจนถึงพลบค่ำ
จากการสังเกตพบว่า ปีนี้ปริมาณนักท่องเที่ยวน้อยกว่าปีที่ผ่านมาเท่าตัว ปกตินักท่องเที่ยวจะเนืองแน่นเข้าจับจองพื้นที่แน่นขนัดจนเบียดเสียดกันแทบไม่มีที่ยืนตามริมแม่น้ำโขง แต่ปีนี้จนถึงช่วงเย็น ยังมีพื้นที่ว่างให้ปูเสื่อชมบั้งไฟพญานาคจำนวนมาก รวมถึงการสัญจรไปมาตั้งแต่ถนนหนองคาย-โพนพิสัย สามารถใช้รถใช้ถนนได้อย่างคล่องตัวไม่ติดขัด สาเหตุเนื่องจาก เกิดอุทกภัยน้ำท่วมในหลายจังหวัด ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ รวมทั้ง โรงแรมที่พักหลายแห่งก็ถูกนักท่องเที่ยวยกเลิกห้องพักโดยให้เหตุผลว่าน้ำท่วมพื้นที่เช่นเดียวกัน
ต่อมาเวลา 18.22 น. วันเดียวกัน ได้เกิดบั้งไฟพญานาคลูกแรกขึ้นเหนือแม่น้ำโขง บริเวณบ้านท่าม่วง ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย 1 ลูก จากนั้นในเวลาห่างกันเพียง 1.2 นาที ได้เกิดลูกไฟติดต่อกันเป็นชุดแรกรวม 10 ลูก และโผล่ขึ้นติดต่อกันอีกชุดรวมทั้งหมด 27 ลูก ส่วนที่บ้านผาตั้ง ต.ผาตั้ง อ.สังคม โผล่ขึ้น 1 ลูก ท่ามกลางเสียงร้องฮือฮาด้วยความดีใจของนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมารอชมตั้งแต่กลางวัน
พ.ต.ต.สุรกิจ ค้วนเครือ สว.จร.สภ.เมืองหนองคาย เปิดเผยว่า ได้จัดการเดินรถทางเดียวจากอำเภอเมืองหนองคาย มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ชมบั้งไฟพญานาค ตั้งแต่ กม.ที่ 10 หน้าโรงงานสุรา ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย-อ.โพนพิสัย ตั้งแต่เวลา 15.00-20.00 น. ส่วนขากลับจากอำเภอโพนพิสัย-อำเภอเมืองหนองคาย ตั้งแต่เวลา 20.00-24.00 น. ซึ่งมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเล็กน้อยเป็นการเฉี่ยวชนระหว่างรถยนต์กับรถจักรยานยนต์
นายประญัติ เกรัมย์ ผู้ประสานงานโครงการบั้งไฟพญานาคปลอดเหล้า องค์กรเครือข่ายงดเหล้าและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้นำเยาวชนอาสาจังหวัดขอนแก่น 20 คน แจกแผ่นประชาสัมพันธ์ ติดป้ายรณรงค์โครงการบั้งไฟพญานาคปลอดเหล้า บริเวณจุดชมบั้งไฟพญานาค พร้อมทั้งทำแบบสอบถามเปรียบเทียบรูปแบบการจัดงานระหว่างปีนี้กับปีที่ผ่านมา ซึ่งองค์กรเครือข่ายงดเหล้าได้ริเริ่มขึ้น ปีนี้รณรงค์ให้เทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคปลอดเหล้า ในบริเวณวัดไทย และวัดต่างๆ ในเขตเทศบาลตำบลโพนพิสัย เป็นพื้นที่ปลอดเหล้า 100% และดำเนินการด้านกฎหมายกับผู้ดื่มทุกราย ส่วนพื้นที่นอกเหนือจากนั้น ยังไม่สามารถรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวงดเว้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้
อย่างไรก็ตาม ยังพบปัญหาที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำในทุกปี จากปัญหาเด็กแว้นขี่รถจักรยานยนต์ดัดแปลง แต่งซิ่ง ไม่มีไฟหน้า ไฟท้าย ขี่รถฉวัดเฉวียน และเบียดกับรถยนต์ของนักท่องเที่ยว ทั้งตามถนนสายหลักและสายรอง ทั้งยังมีการจุดประทัด ดอกไม้ไฟ โยนใส่นักท่องเที่ยว จนก่อให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง โดยมีการร้องเรียนเรื่องทำนองนี้ ไปยังศูนย์ประสานงานของจังหวัดหนองคายตลอด แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้
ต่อมากลางดึกคืนเดียวกัน ศูนย์รวบรวมข้อมูลข่าวสารและแจ้งเหตุ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.หนองคาย ได้รวบรวมสถิติการเกิดบั้งไฟพญานาคพบว่า เกิดบั้งไฟพญานาคขึ้นหลายจุด ดังนี้ บ้านท่าม่วง ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี 65 ลูก บ้านน้ำเป ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี 10 ลูก บ้านหนองแก้ว ต.กุดบง อ.โฑนพิสัย 18 ลูก บ้านผาตั้ง ต.ผาตั้ง อ.สังคม 5 ลูก หน้า อบต.จุมพล อ.โพนพิสัย 2 ลูก บ้านท่าศรีไคร อ.บึงโขงหลง 4 ลูก ในเขตเทศบาลตำบลปากคาด อ.ปากคาด 2 ลูก บ้านเดื่อ อ.เมืองหนองคาย 1 ลูก และหน้าวัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ 3 ลูก รวม 110 ลูก มากกว่าปี 2552 ที่มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้น 87 ลูก
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
update : 26-10-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน