จิตอาสาลงพื้นที่ช่วยเหลือ “ชาวเหล่าใหญ่”
พัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มผู้ด้อยโอกาส
แม้ปัจจุบันผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ จะมีสวัสดิการด้านสาธารณสุขรองรับ แต่กลุ่มคนเหล่านี้กลับไม่สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้โดยสะดวก ซึ่งเกิดจากฐานะที่ยากจนและขาดความรู้ที่ถูกต้องในการดูแลผู้ป่วย และปัญหาที่ว่าไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยและผู้ด้อยโอกาสเท่านั้น หากแต่ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว ผู้ดูแล จนกลายเป็นภาระของชุมชนไปโดยปริยาย
จึงเป็นที่มาของโครงการ “ไทยเหล่าใหญ่ห่วงใยผู้ด้อยโอกาสในชุมชน” ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของ เทศกาลตำบลเหล่าใหญ่ อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ และอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อดูแลรักษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในชุมชน ไม่ให้เป็นภาระแก่ครอบครัว โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ปานแก้ว แสบงบาล นักบริหารงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลตำบลเหล่าใหญ่ และผู้ประสานงานโครงการฯ เผยว่า พื้นที่ตำบลเหล่าใหญ่มีผู้ด้อยโอกาส ซึ่งแบ่งเป็นผู้พิการ 31 ราย ผู้ป่วยโรคเอดส์ 5 ราย ผู้ป่วยด้านจิตเวชและผู้ป่วยเรื้อรัง 83 ราย และผู้ยากจนขาดการดูแล 8 ราย รวมทั้งสิ้น 127 ราย ถึงแม้เขาเหล่านี้จะได้รับสวัสดิการด้านสาธารณสุข เช่น บัตรทองรักษาฟรี แต่ผู้ด้อยโอกาสเหล่านี้นอกจากจะไม่สามารถประกอบอาชีพได้แล้ว ยังไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้องหรือรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะกลายเป็นผู้พิการซ้ำซ้อนมีชีวิตอยู่เหมือนรอวันตายได้
“โดยเฉพาะผู้ป่วยจิตเวชนั้นมีความสำคัญมากที่สุด บางคนเอะอะโวยวาย มีท่าทางจะทำร้ายผู้อื่น ทำร้ายตัวเอง บางคนก็ไม่ได้รับยาต่อเนื่อง คือรับยาไปแต่ไม่กินอาการก็กำเริบ ส่วนผู้พิการบางคนประสบอุบัติเหตุหากไม่ได้ทำกายภาพบำบัด ก็จะกลายเป็นผู้พิการซ้ำซ้อน จึงเห็นว่าหากเราไม่ช่วยคนกลุ่มนี้จะลำบากมาก เพราะเขากลายเป็นภาระให้ครอบครัวเสียทั้งเงินและเวลา” ปานแก้วระบุ
พร้อมกับกล่าวว่า โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การตรวจเยี่ยมดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้โดยประสานงานกับ โรงพยาบาลกุฉินารายณ์ ส่งแพทย์และพยาบาลมาตรวจรักษาและให้คำแนะนำต่างๆ และใช้อาสาสมัครสาธารณสุข ที่มีจิตอาสาออกเยี่ยมเยียนติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับพัฒนาและปรับปรุงสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของผู้ด้อยโอกาสให้ดีขึ้น ทั้งยังอบรมให้ความรู้ความเข้าใจในวิธีการดูแลรักษาที่ถูกต้องกับครอบครัวของผู้ป่วย ฝึกงานสร้างอาชีพเสริมให้แก่ผู้พิการ
“นอกจากนี้เรายังนำคณะผู้บริหารของเทศกาลลงเยี่ยมผู้ด้อยโอกาสในชุมชน ทำให้เขาทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนจนเกิดเป็นนโยบายในการพัฒนาสุขภาวะของชุมชนของเทศกาลอย่างต่อเนื่อง หลังจากเริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2552 ก็เห็นผลทันที คนป่วยจิตเวชที่ไม่เคยกินยาเลย อสม.ก็ไปรับยามาให้ ไปเยี่ยมที่บ้าน ดูแลเรื่องกินยาทุกวัน ปรากฏว่าคนที่เคยอยู่มุมห้องถือมีดคอยจะฆ่าพ่อฆ่าแม่ก็หาย ผู้ป่วยจิตเวชทั้ง 33 คน ก็มีอาการดีขึ้นเกือบทุกราย เพราะครอบครัวเข้าใจเห็นความสำคัญและยินยอมให้นำตัวไปรักษา” ปานแก้วแจกแจง
ด้าน อภิชัย พลหงส์ วัย 47 ปี ประธานกลุ่มผู้ด้อยโอกาสตำบลเหล่าใหญ่ ทั้งยังเป็นผู้พิการด้วยโรคโปลิโอแต่กำเนิด แต่กลับไม่ปล่อยให้ความพิการเป็นอุปสรรคในการช่วยเหลือคนอื่นๆ โดยผันตัวเองมาเป็น อสม. ดูแลผู้ด้อยโอกาสรายอื่นๆ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“ถึงเราเดินเหินไม่สะดวกแต่ยังมีอีกหลายคนที่ด้อยโอกาสมากกว่าเรา อะไรที่พอจะช่วยให้เขาดีขึ้น ช่วยตัวเองได้ ไม่เป็นภาระครอบครัว อย่างน้อยได้ไปพูดคุยถามไถ่ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำการดูแลผู้ป่วยกับครอบครัวก็ยังดี ซึ่งโครงการนี้นอกจากจะทำให้คุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาสดีขึ้นแล้ว ยังมีการรวมกลุ่มสร้างอาชีพให้แก่ผู้พิการด้วย” อภิชัยกล่าว
ส่วน ยายจอม ใจศิริ วัย 78 ปี ผู้สูงวัยที่ขาดผู้ดูแล อาศัยอยู่ภายในบ้านคนเดียวและที่พักอาศัยไม่มีห้องน้ำใช้เวลาจะทำธุระหนักเบาจะต้องถือเสียมเดินเข้าไปขุดดินในสวนหลังบ้านเป็นประจำ ทาง อสม.จึงประสานกับเทศบาลของตำบลให้มาช่วยเหลือ ชาวบ้านจึงลงแรงร่วมกันสร้างห้องน้ำให้แล้วเสร็จ ซึ่งยายจอมใจกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า สะดวกขึ้นไม่ต้องเดินไกล ทางกลุ่ม อสม.มาเยี่ยมบ่อย มาพูดคุยทำให้ไม่เหงา
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
update:30-06-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่