จับมือทุกหน่วยงาน เพิ่มพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า
ที่มา : ไทยรัฐ
แฟ้มภาพ
ร่วมมือทุกหน่ยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มพื้นที่ปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อให้ประเทศไทยเข้าสู่เป้าหมายการเป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ด้วยพระปณิธานศาสตราจารย์ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี อันมุ่งมั่นที่ทรงงานหนัก ประกอบกับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทำให้ปี 2563 นี้ไทยพบผู้เสียชีวิต จากโรคพิษสุนัขบ้าเพียง 3 ราย จาก 3 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว หนองคาย และศรีสะเกษ ซึ่งผู้เสียชีวิตทุกรายมีประวัติถูกสุนัขที่ตนเลี้ยงไว้กัดหรือข่วน โดยไม่ได้ไปพบแพทย์ เพื่อรับการฉีดวัคซีนนอกจากนี้มีการตรวจพบสัตว์ติดเชื้อทั้งสิ้น 206 ตัวอย่าง โดยเป็นสัตว์ที่มีเจ้าของ 35% และไม่มีเจ้าของ 38.35% ขณะที่บางพื้นที่ไม่พบการเกิดโรคพิษสุนัขบ้า ทั้งในคนและสัตว์ต่อเนื่องมามากกว่า 2 ปี
ดังนั้นทิศทางของการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในระยะต่อไป ควรให้พื้นที่ที่ไม่พบโรคมีการประเมินและรับรองเป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า ส่งผลให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ไปสู่พื้นที่ที่ยังพบการระบาด เพื่อให้ประเทศไทยเข้าสู่เป้าหมายการเป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า นโยบายในการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้านั้น ได้แก่ 1.เร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้ผู้สัมผัสโรคทุกคน 2.สนับสนุนให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคล่วงหน้าให้กับบุคลากรและอาสาสมัครกลุ่มเสี่ยง 3.สนับสนุนความร่วมมือตามยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ของทุกกระทรวง 4.ร่วมมือประเมินพื้นที่ปลอดโรค โดยร่วมกับกรมปศุสัตว์ และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินพื้นที่ปลอดโรค เพื่อให้เทศบาลและ อบต.ใช้ในการประเมินตนเองและขอรับรองเป็นพื้นที่ปลอดโรค โดยค่อยๆ เพิ่มพื้นที่ปลอดโรคจนครบทั่วประเทศ หากทำสำเร็จไทย จะเป็นประเทศแรกของภูมิภาคอินโดจีน ที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ปลอดโรคอย่างเป็นทางการ.