จับตาการพนันเยาวชนรับกระแสฟุตบอลโลก

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


จับตาการพนันเยาวชนรับกระแสฟุตบอลโลก thaihealth


เมื่อเทศกาลฟุตบอลกำลังมาถึง เรื่องการพนันก็ถูกพูดถึงตามและผลสำรวจได้ชี้ว่า เยาวชนที่เริ่มเล่นพนันจากการพนันฟุตบอล มีแนวโน้มจะเล่นพนันต่อเนื่อง


ไม่มีใครกล้าฟันธงว่า กระแสกีฬาฟุตบอลกับพฤติกรรมเล่นพนันบอล ใครเกิดก่อน แต่ทุกครั้งที่มี การแข่งขันทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ อย่างฟุตบอลโลก ฟุตบอลยูโร ก็จะมีคำเตือนแสดงความห่วงใยว่าด้วยการเล่นพนันกันทุกครั้ง โดยเฉพาะเยาวชนที่เป็นกลุ่ม เป้าหมายสำคัญของการรณรงค์


ฟุตบอลโลก 2018 ที่ใกล้จะมาถึงนี้ ก็เช่นกัน ล่าสุดกองบัญชาการตำรวจ นครบาลและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เร่งรณรงค์เรื่องการรับรู้ผลเสีย และการเกี่ยวข้องกับพนันฟุตบอลนั้น ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองซึ่งต้องร่วมรับผิดชอบกับเด็กหาก ปล่อยปละละเลยให้ลูกมาเล่นพนันฟุตบอลด้วยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน พ.ศ.2546


ผลวิจัยเรื่อง 'ชีวิตเสี่ยงพนัน.จะป้องกันเยาวชนอย่างไร? ของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาจากการพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุสาเหตุที่ต้องปกป้องเด็กและเยาวชนเป็นพิเศษจากการพนันว่า  นั่นเพราะเยาวชนที่เริ่มเล่นพนันจากการพนันฟุตบอล มีแนวโน้มจะเล่นพนัน ต่อเนื่องสูงถึงร้อยละ 82.6 สูงกว่ากลุ่มที่เริ่มต้นจากการเล่นพนันประเภทอื่นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเยาวชนชายที่เริ่มเล่นพนันจากการพนันฟุตบอล พบว่าร้อยละ 87.3 จะเล่นพนันต่อเนื่อง จากผลสำรวจสถานการณ์การเล่นพนันของนักเรียนมัธยมฯ ต้น ปี 2561 พบว่า เด็กเริ่มเล่นพนันครั้งแรกตอน อายุน้อยที่สุดที่ 6 ปี ส่วนผลสำรวจประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป พบผู้เริ่มต้นเล่นพนันครั้งแรกอายุต่ำสุดที่ 7 ปี


"เหตุผลที่เริ่มเล่นพนันเพราะ อยากลอง เล่นสนุกชั่วครั้งชั่วคราว พนันด้วยเงินเล็กน้อย แต่จะเพิ่มระดับขึ้น  ทั้งวงเงินและความถี่ในการเล่น ยิ่งเล่นนาน ยิ่งเล่นหนัก อาการที่เห็นชัดคือ ถ้าไม่ได้เล่นพนันจะรู้สึกกระสับกระส่ายเหมือนติดเหล้า ติดบุหรี่ ยิ่งผู้สูงอายุติดพนัน จะมีปัญหาตามมามากกว่าคนวัยอื่น" ส่วนหนึ่งของการวิจัยระบุ


จับตาการพนันเยาวชนรับกระแสฟุตบอลโลก thaihealth


รศ.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จะสำรวจสถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการพนัน ในประเทศไทยเป็นประจำทุก 2 ปี  โดยปี 2560 สำรวจจากประชาชนอายุ  15 ปีขึ้นไปใน 25 จังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 15 กันยายน-12 ตุลาคม 2560 รวม 7,008 ตัวอย่าง


ผลระบุว่า คนไทยร้อยละ 75.2 หรือเกือบ 40 ล้านคนเคยเล่นพนัน เกินครึ่งเริ่มเล่นพนันครั้งแรกตอนอายุไม่เกิน  20 ปี กลุ่มเริ่มเล่นพนันครั้งแรกอายุต่ำสุด ที่ 7 ปี เริ่มจากเล่นพนัน 4 ประเภท คือ ไพ่ หวยใต้ดิน สลากกินแบ่งรัฐบาล และบิงโก โดยผู้เล่นพนันร้อยละ 20 มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพขณะ เล่นพนัน คือร้อยละ 12 สูบบุหรี่ ร้อยละ 8.2 ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และร้อยละ 7  รับประทานของหวานหรือขนมขบเคี้ยว


ภาพรวม ปี 2560 คนไทยเล่นพนันในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ร้อยละ 54.6 หรือเกือบ 29 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 ล้านคนเมื่อเทียบกับปี 2558 ในจำนวนนี้เป็นนักพนันหน้าใหม่หรือเริ่มเล่นพนันครั้งแรกในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ถึง 6 แสนกว่าคน ที่น่ากังวลใจคือการที่พบกลุ่มเยาวชนและผู้สูงอายุมีการเล่นพนันเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับผลสำรวจปี 2558 ทั้งนี้สำหรับการพนันยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล หวยใต้ดิน ไพ่ พนันทายผลฟุตบอล และพนันพื้นบ้าน ขณะที่ ผู้เล่นพนันได้รับผลกระทบทางสุขภาพ ร้อยละ 20.4 หรือ 5.9 ล้านคน เช่น รู้สึกเครียด ขาดเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน  มีปากเสียงทะเลาะกับคนในครอบครัว  เสียเวลาทำงานหรือการเรียน เป็นหนี้ สุขภาพเสื่อมโทรม ฯลฯ และประมาณ  9 แสนกว่าคนมีหนี้สินที่เกิดจากการพนันรวมกันประมาณ 12,258 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่คนละ 13,188 บาท


ผศ.พญ.พรจิรา ปริวัชรากุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคสมอง กล่าวในหนังสือ "แกะรอยหยักสมอง มองผลกระทบของการพนัน" ตอนหนึ่งว่า การพนันมีส่วนเปลี่ยนแปลงสมองเช่นเดียวกับ ยาเสพติด ซึ่งสมาคมจิตแพทย์อเมริกันได้ประกาศเปลี่ยนแปลงการวินิจฉัยของโรคจิตเวชจากเดิมที่เคยจัดเรื่องการพนันไว้ในหมวดความผิดปกติเกี่ยวกับการยับยั้งชั่งใจ มาเป็นกลุ่มความผิดปกติเกี่ยวกับสารเสพติดแทน นั่นเพราะมีหลักฐานที่สอดคล้องกันว่า พฤติกรรมบางอย่าง เช่น ติดพนัน  ติดชอปปิง  ติดเกม สามารถกระตุ้น reward  system (สมองส่วนควบคุมความสุข) แบบเดียวกับที่สารเสพติดทำ


เมื่อได้ทำบ่อยครั้งขึ้น จะมีความต้องการเพิ่มจำนวนไปเรื่อยๆ การเพิ่มจำนวนพนันไปเรื่อยๆ จึงเพื่อความ ตื่นเต้นที่ต้องการ หากพยายามลดหรือหยุดพนัน ก็จะยิ่งหงุดหงิด โกหกปิดบังเกี่ยวกับพฤติกรรมของตน เสี่ยงต่อการสูญเสียสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด


เมื่อการพนันคือตัวปัญหา ท่ามกลางกระแสทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลที่กำลัง มาถึง เราจึงต้องจำเป็นต้องเร่งด่วนที่จะมาตรการป้องกัน


แต่จะดีกว่านั้นอีก ถ้าทุกภาคส่วนร่วมกันกวดขันกันทุกเวลา โดยไม่ต้องรอว่า อีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้จะมีกระแสฟุตบอลโลกหรือเทศกาลกีฬาใดๆ เกิดขึ้นอีก

Shares:
QR Code :
QR Code