ที่มา : แนวหน้า 

แฟ้มภาพ

"บิ๊กป้อม" นั่งหัวโต๊ะถกแก้ปัญหาขยะเป็นพิษ อึ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ตกค้าง 85 ตู้ เศษพลาสติก 2,100 ตู้ สั่งกรมศุลกากร-กรมโรงงานอุตสาหกรรมเร่งแก้ไข พร้อมให้ยกเลิกนำเข้าซากอุปกรณ์ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่มหาดไทย สั่งเอกซเรย์โรงงานขยะอันตรายทุกพื้นที่หากพบผิดฟันไม่เลี้ยง

การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินคณะที่ 5 ที่ทำเนียบรัฐบาล โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการจัดการปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ และเศษพลาสติกที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยได้ตั้งอนุกรรมการ ขับคลื่อนแก้ปัญหา ซึ่งข้อมูลสถานภาพขยะปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม กรมศุลกากร แจ้งว่า มีขยะอิเล็กทรอนิกส์ตกค้างอยู่จำนวน 85 ตู้ และมีเศษพลาสติกตกค้างอยู่ 2,100 ตู้ ที่ประชุมจึงมอบหมายให้กรมศุลกากรและกรมโรงงานอุตสาหกรรมไปเร่งดำเนินการแก้ปัญหา

พร้อมกันนี้ ได้มีมติให้ยกเลิกการนำเข้า ซากชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและเศษอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งให้จัดทำบัญชีรายชื่ออุปกรณ์และ เครื่องใช้ไฟฟ้ามือ 2 ที่จะอนุญาตให้นำเข้า โดยกำหนดโควตาเศษพลาสติกและเศษโลหะที่ใช้แล้วจะต้องคำนึงถึงประโยชน์การใช้ร่วมกับผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนเป็นตัวตั้ง

ส่วนเรื่องการจัดทำแนวทางจัดการพื้นที่ปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะโรงงานคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ถูกต้องและไม่เข้าข่ายเป็นโรงงาน ที่ประชุมมอบหมาย กระทรวงมหาดไทย  กระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ร่วมกันพิจารณาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า ขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้างบริเวณรอบพื้นที่โรงงานจัดเก็บ และอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน เช่น ตะกั่ว ปรอท คลอรีน เป็นต้น กรมการปกครอง จึงได้สั่งการนายอำเภอทั่วประเทศให้ดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว โดยมอบหมายชุดปฏิบัติการประจำตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้าน ออกตรวจสอบปัญหาการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างผิดกฎหมายในพื้นที่ โดยให้ความสำคัญกับโรงงานที่มีการประกอบกิจการถอดแยก และบดย่อยชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เป็นอันดับแรก รวมทั้งตรวจตราและสอดส่องผู้ครอบครองวัตถุอันตรายโดยผิดกฎหมาย หากพบการ กระทำความผิดให้รายงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทันที