งดเหล้าเข้าพรรษา มีสติ สู้วิกฤต
เรื่องโดย เทียนทิพย์ เดียวกี่ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลจากการแถลงข่าวโครงการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ปี 2563
ภาพโดย ชยวี ลิ้มถาวรรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th
“เข้าพรรษา” เป็นประเพณีที่สำคัญของชาวไทยพุทธ นอกจากการทำบุญ ถวายผ้าอาบน้ำฝนและเทียนพรรษาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควบคู่มากับสังคมไทยมายาวนานกว่า 17 ปี คือแคมเปญ งดเหล้าเข้าพรรษา นั่นเอง
โครงการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา เกิดขึ้นเมื่อปี 2546 โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) หลังศึกษาพบว่าสถิติคนไทยดื่มเหล้าเพิ่มสูงขึ้นจนน่ากลัว สวนทางกับองค์กรที่ทำงานด้านการรณรงค์เรื่องเหล้าที่มีอยู่น้อยมาก ทางเครือข่ายจึงปักธงทำงานรณรงค์เรื่องเหล้าเป็นอันดับแรก และปัจจุบันได้ดำเนินโครงการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษามา เป็นเวลา 17 ปีแล้ว
ปีนี้ก็เช่นเดียวกัน สสส. สคล. และภาคีเครือข่าย ยังคงเดินหน้ารณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงแตกต่างกว่าทุกปี โดยการรณรงค์ภายใต้แนวคิด “งดเหล้าเข้าพรรษา มีสติ มีเงินเหลือ พร้อมสู้ทุกวิกฤต” เพื่อให้คนไทยตระหนักและตื่นตัวในการหันมาเปลี่ยนวิถีชีวิต ดูแลสุขภาพ งดเหล้า เอาใจใส่ตัวเองให้มากยิ่งขึ้น
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวถึงการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ว่า ในปีนี้มีวิกฤตโควิด-19 เข้ามาคุกคาม ส่งผลให้ประเทศไทยมีมาตรการห้ามขายสุรา ถือได้ว่าเราได้งดเหล้าก่อนเข้าพรรษาไปช่วงหนึ่งแล้ว แคมเปญของปีนี้เน้นเรื่องของสติ การป้องกันเชื้อ การดูแลร่างกายให้แข็งแรง การไม่ประมาท หรือแม้แต่เรื่องสังคม เศรษฐกิจ ซึ่งการแก้ไขวิกฤตทั้งหมดนั้น คุมด้วยสติเกือบทั้งสิ้น และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตวิถีใหม่
“เด็ก ถือเป็นอนาคตของชาติ และเป็นคนสำคัญของครอบครัว สสส. ร่วมมือกับ สพฐ. รณรงค์ให้เด็กเป็นสื่อที่ชวนพ่อแม่เลิกเหล้า เพื่อสร้างสังคมของการไม่ดื่ม งดเหล้าเข้าพรรษาปีนี้ เราจะพาสังคมไทยเป็นสังคมที่มีสติ พร้อมรับวิกฤตโควิดและวิกฤตอื่น ๆ ต่อไปได้ในอนาคต” ดร.สุปรีดา กล่าว
นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวถึงแนวคิด งดเหล้าเข้าพรรษา มีสติ มีเงินเหลือ พร้อมสู้ทุกวิกฤต ว่า ปีนี้เป็นปีที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีคนลดละเลิกไปเยอะ และมีคนสนใจสุขภาพมากขึ้น จึงชูประเด็นเรื่องสติ และมิติเศรษฐกิจ คือ ให้มีเงินเหลือ ถ้าเรางดเหล้าเข้าพรรษา 3 เดือน ปีที่แล้วพบว่ามีการประหยัดเงินได้กว่า 8,000 ล้านบาท โดยมีนายอำเภอนักรณรงค์และชมรมคนหัวใจเพชรเป็นกำลังสำคัญ ดำเนินกิจกรรมผ่านระบบ ชวน ช่วย เชียร์ และมี สพฐ. ที่มีโรงเรียนกว่า 30,000 แห่ง ที่คาดว่าน่าจะเข้าร่วมผ่านโครงการโพธิสัตว์น้อย ลูกชวนพ่อแม่เลิกเหล้า
“หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนงาน คือ การชื่นชม การให้กำลังใจกัน และท่ามกลางปัญหาตอนนี้ที่เกิดขึ้น สติ เป็นเรื่องที่สำคัญ ปีนี้ก็คาดหวังว่าทุกภาคส่วนจะเข้ามาร่วมมือกับเรามากขึ้น” นายธีระ กล่าว
“การดื่มสุรา ทำให้สมรรถภาพในการเป็นคนลดลง” ประโยคสำคัญที่พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) ฝากไว้ให้ทุกคนใช้เพื่อเตือนสติ ท่านกล่าวว่า เราสามารถงดเหล้า เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ และการสูญเสียได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาควบคุม แต่ใช้ “สติ” คำเดียวที่มีพลังมากพอที่จะหยุดทุกวิกฤต หากเรามีสติ เราจะสวมหน้ากากให้ตัวเอง และปกป้องคนอื่น นี่ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม นอกจากนี้สติยังช่วยในการแก้ปัญหา ตั้งแต่เรื่องเล็กๆไปจนถึงปัญหาใหญ่ๆได้ แต่สุรานั้นเป็นฐานของความประมาท ที่จะเล่นงานสติ และทำให้ความประมาทเข้ามาแทนที่ ทางที่ดี เราจึงควรงดดื่มสุราไปทั้งชีวิต เพราะไม่ว่าใครก็ตาม หากนำสุราเข้าสู่ร่างกาย ก็มีโอกาสที่จะทำให้คุณภาพชีวิตลดลงได้
ผลกระทบ 4 ด้าน จากการดื่มสุรา
1.ความเสียหายทางกาย – เมื่อดื่มสุรา จะทำให้ขาดสติ ครองกายไม่ได้ เมื่อไปขับรถ ก็ครองรถไม่ได้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เกิด การบาดเจ็บ ความพิการ และเสียชีวิต สร้างความเสียหายให้กับตัวเอง และผู้อื่น
2.ความเสียหายทางสังคม – คนดื่มสุรา ทำให้ขาดสติ ในหนึ่งครอบครัวถ้ามีคนติดสุรา ความสุขก็ขาดหายไป การดื่มสุราเป็นมะเร็งความสุข ทำให้คนขาดความยับยั้งชั่งใจ ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ สร้างความเสียหายที่ไม่คาดคิด เช่น ไปข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น หรือแม้แต่คนใกล้ชิดได้
3.ความเสียหายทางจิต – คนดื่มสุราเป็นประจำ สม่ำเสมอจนติด จะทำให้สุขภาพจิตไม่ปกติ ศักยภาพในการคิด และการใช้เหตุผลไม่ปกติ เกิดความคลุ้มคลั่ง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
4.ความเสียหายทางปัญญา – ศักยภาพทางปัญญาผิดปกติ โลกทัศน์ผิดปกติ ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นก็ผิดปกติ ความรับรู้ ความเข้าใจผิดเพี้ยนไปจากปกติ มองว่าตนเองปกติ แต่กลุ่มคนที่ไม่ดื่มเหล้า เป็นกลุ่มคนที่ผิดปกติแทน การดื่มสุรานั้นไม่เพียงทำให้ประสิทธิภาพในการทำงาน และการดำเนินชีวิตลดลง แต่ยังทำให้สมรรถภาพในการเป็นคนลดลงอีกด้วย
“ สุราไม่ได้บั่นทอน 4 อย่างเท่านั้น แต่บั่นทอนชีวิตคนทั้งคน งดเหล้าเข้าพรรษาปีนี้ปลุกสติให้ตื่น รู้เท่าทันจิต ฝึกตนให้อยู่ห่างเหล้า อบายมุข จะทำให้เราอยู่ห่างไกลความเสื่อมโดยอัตโนมัติ หากใครใกล้สติก็จะอยู่ไกลทุกข์ ปลุกสติจะทำให้อยู่รอดปลอดภัยจากอันตรายทั้งหมด และถือว่าเราได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้กับประเทศชาติของเราแล้ว” พระเมธีวชิโรดม กล่าว
ถือได้ว่า “สติ” นั้นเป็นหลักที่เราสามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกสถานการณ์ งดเหล้าเข้าพรรษาปีนี้ สสส.และภาคีเครือข่ายไม่ได้รณรงค์เฉพาะเรื่องเหล้าเท่านั้น แต่ยังรณรงค์ไปถึงการมีสติในการใช้ชีวิต ทั้งในมิติของสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันให้มีจิตใจและร่างกายที่แข็งแกร่ง พร้อมสู้กับทุกวิกฤตที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต