คิดบวกเปลี่ยนชีวิต จากร้ายกลายเป็นดี

คิดบวกเปลี่ยนชีวิต จากร้ายกลายเป็นดี 

 

“สักวันเราก็ต้องแก่ เพราะฉะนั้น เราต้องดูแลคนแก่ตั้งแต่ตอนนี้ เหมือนกับได้ทำบุญไปด้วย และเป็นการเตรียมความพร้อมตัวเราเอง เพื่อก้าวไปสู่การเป็นคนชราในอนาคต”

 

ด้วยตระหนักรู้ในความจริงของชีวิตเกี่ยวกับการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย คุณวันทนา สุขสกุลพันธุ์ พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จึงเป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดตั้ง “ชมรมสูงวัยศูนย์เวชปฏิบัติครอบครัวพระนครศรีอยุธยา” ขึ้น ทั้งยังรับหน้าที่เป็นเลขาชมรมนี้ด้วย โดยมีนายกเทศบาลพระนครศรีอยุธยา รับเป็นประธานชมรมฯ

 

คุณวันทนา ได้นำชมรมฯ เข้าสู่ โครงการอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุเพื่อนช่วยเพื่อน ซึ่งเป็นโครงการที่ สสส.ให้การสนับสนุนมาตั้งแต่ปีแรก และยังคงอยู่ในโครงการนี้มาจนถึงปัจจุบัน (ในปี 2553) นอกเหนือไปจากความรู้สึกว่า เป็นการเตรียมพร้อมและทำบุญเผื่อไว้สำหรับตนเองตอนแก่แล้ว ความจริงที่ได้พบเห็นอีกเรื่องคือ ปัญหาของคนแก่ในพื้นที่ ที่ยังเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ

 

“ในพื้นที่รับผิดชอบของชมรมฯ ชาวบ้านส่วนใหญ่มีฐานะปานกลางถึงยากจน โอกาสในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขต่างๆ มีน้อย ถึงแม้ว่าในเขตเทศบาลจะมีชมรมผู้สูงอายุซึ่งเป็นชมรมใหญ่ แต่ชาวบ้านในพื้นที่ก็ไม่สามารถเข้าร่วมชมรมได้ เพราะเรื่องค่าสมัคร และการเดินทางไปร่วมกิจกรรมหรือร่วมประชุม ซึ่งทำให้เสียทั้งค่าใช้จ่ายและเวลาในการทำงาน ทั้งที่ผู้สูงอายุหลายคนในพื้นที่เป็นคนที่มีความรู้ บางทีก็รู้สึกน้อยใจ แต่มัวน้อยใจก็ไม่เกิดประโยชน์ จึงได้คิดตั้งชมรมขึ้นมาเอง เปลี่ยนความคิดเชิงลบให้กลายเป็นบวก” คุณวันทนา กล่าว

 

คิดบวกเปลี่ยนชีวิต จากร้ายกลายเป็นดี

 

เมื่อเปลี่ยนความคิด เรื่องร้ายก็กลายเป็นดี ชมรมฯมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อเปลี่ยนเงื่อนไขการรับสมาชิก จากเดิมที่รับเฉพาะผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มาเป็นอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป ทำให้ทุกวันนี้ชมรมฯ มีสมาชิกมากขึ้นถึง 540 คน เป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ (อผส.) 33 คน กลยุทธ์นี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอีกด้วย

 

เลขาชมรมสูงวัยฯ เล่าต่อว่า ผู้สูงอายุมีความรู้ คนหนุ่มสาวมีพลัง ถือเป็นการนำคนที่มองต่างมุมมาทำงานร่วมกัน ทำให้ชมรมมีมุมมองที่กว้างขึ้น มีความแปลกใหม่ และช่วยลดช่องว่างระหว่างวัย อีกทั้งยังช่วยให้เยาวชนในชุมชน เกิดจิตสำนึกอยากทำงานเพื่อคนแก่อย่างจริงจัง สามารถเตรียมคนที่จะมารับช่วงดูแลชมรมฯต่อไปด้วย

 

ทุกวันนี้ ชมรมสูงวัยฯ ที่เกิดขึ้นมาจากความตั้งใจของ คุณวันทนา ได้กลายเป็นชมรมที่มีหน่วยงานต่างๆ ติดต่อเข้ามาขอดูงานเป็นจำนวนมาก เพราะได้ชื่อว่าเป็นชมรมตัวอย่าง ที่มีความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย มีความสัมพันธ์และผูกพันกันระหว่างสมาชิกเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ประสพความสำเร็จ นั้นคือ “3 ก” อันประกอบด้วย กรรมการ กองทุน และ กิจกรรมต่อเนื่อง

 

ในส่วนของ “กรรมการ”  คือ การนำคนที่มีความแตกต่างกัน ทางด้านอายุและมุมมอง มาทำงานร่วมกัน ขณะที่ด้าน “กองทุน” นั้น จุดเด่นของชมรมนี้อยู่ที่ การระดมทุนด้วยตนเอง มากกว่าจะรองบประมาณช่วยเหลือจากใคร ซึ่งทุกวันนี้ ชมรมได้กำหนดค่าสมาชิกไว้ที่ 10 บาท/คน/ปี นอกจากนี้ หากใครสมัครใจจะเป็นสมาชิกอุปถัมภ์ก็จะจ่ายเพิ่มอีก 30 บาท/คน/ปี เพื่อสมทบเข้าเป็นกองทุนฌาปนกิจ ซึ่งจะนำไปช่วยเหลือสมาชิกทุกคน ในปีแรกสมาชิกชมรมฯ ที่เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละประมาณ 10,000 บาท ในปีที่ 2 ได้รับเพิ่มขึ้นเป็น 15,630 บาท ส่วนในกรณีเจ็บป่วย ญาติที่มาดูแลเป็นประจำ 1 คน จะได้รับค่าเยี่ยม 100 บาท แต่ทั้งนี้ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาเท่านั้น

 

คิดบวกเปลี่ยนชีวิต จากร้ายกลายเป็นดี

 

สำหรับเรื่องของ “กิจกรรม” จะมีทั้งกิจกรรมในรูปแบบของ การเยี่ยมบ้าน การช่วยเหลือด้านสุขภาพ การดูแลปัญหา เรื่องสิทธิผู้พิการ บัตรประชาชน ฯลฯ โดยจะไม่เน้นไปที่สิ่งของ แต่จะให้ความสำคัญกับการให้ความรู้มากกว่า และยังมีกิจกรรมบันเทิงอีกด้วย อาทิ งานปีใหม่ สงกรานต์ แห่เทียนพรรษา กีฬาผู้สูงวัย และการพาผู้สูงอายุไปเที่ยว

 

ไม่แปลกใจที่ผู้สูงอายุของชมรมฯ นี้ จะอารมณ์ดีกันถ้วนหน้า …และไม่น่าแปลกใจที่ชมรมแห่งนี้ จะมีผู้มาดูงานไม่เว้นแต่ละวัน

 

 

 

 

 

ที่มา : จดหมายข่าวเพื่อนสร้างสุข เดือนธันวาคม 2553

 

 

update : 17-12-53

อัพเดทเนื้อหาโดย :  ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน

 

Shares:
QR Code :
QR Code