คาดปี 83 ไทยมีผู้สูงอายุมากสุดในโลก
ที่มา : เว็บไซต์ไทยโพสต์
ภาพประกอบจากเว็บไซต์ไทยโพสต์
กรมกิจการผู้สูงอายุ (พม.) เตรียมความพร้อมดูแลผู้สูงอายุ ชี้องค์การอนามัยโลกประเมินปี 2583 ไทยจะมีผู้สูงอายุมากสุดในโลก ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือพัฒนา กม. "มาตรฐานผู้สูงอายุ" ให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกันทั้งรัฐและเอกชน
นายสมคิด สมศรี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุตั้งแต่ปี 2548 มีประชากรผู้สุงอายุร้อยละ 20 หรือประมาณ 15 ล้านคน ซึ่งองค์การอนามัยโลกมีการประเมินว่า ในปี 2583 ประเทศไทยจะมีจำนวนผู้สูงอายุมากที่สุดในโลก ในขณะนี้จึงมีปัญหาที่ต้องแก้ไขคือ ผู้ป่วยติดเตียงซึ่งมี 180,000 คนทั่วประเทศ ที่โรงพยาบาลไม่รับ ต้องกลับไปอยู่บ้าน ซึ่งนโยบายเร่งด่วนในขณะนี้คือ การปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้านของผู้ป่วยให้เหมาะสม โดยทางกรมกิจการผู้สุงอายุได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ด้วยการสร้างโถนั่งยอง ราวจับเข้าห้องน้ำ ให้กับผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่บ้าน เพราะหากไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกนี้อาจทำให้มีอายุของผู้สูงอายุสั้นลง เบื้องต้นคาดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์นี้จำนวน 2,500 หลังทั่วประเทศ คิดค่าวัสดุอุปกรณ์และค่าแรงงานเป็นเงินหลังละ 22,750 บาท ซึ่งการดำเนินการเริ่มไปแล้วมื่อปี 2559 จำนวน 200 หลัง และก็จะมีการสร้างโรงเรียนผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้ออกจากบ้าน ไม่เหงาหงอย โดยร่วมกับศูนย์พัฒนาคุณภาพและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ (ศพอส.)
ทั้งนี้ ในเชิงนโยบายจะเน้นทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม สภาพแวดล้อม ซึ่ง พม.มีศูนย์ดูแลผู้สูงอายุทั้งหมด 887 แห่งทั่วประเทศ ได้ทำประชารัฐในการนำผู้ป่วยออกมาจากบ้านให้ได้ เพื่อนำมาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การฝึกอาชีพ การให้ผู้สูงอายุได้ผ่อนคลาย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม พม.ก็มีการเน้นใน 4 เรื่องหลัก ดังนี้ 1.การจ้างงานที่ผู้สูงอายุวัย 70 ปีขึ้นไปสามารรถทำได้ 2.การสร้างบ้านผู้สูงอายุ ปีนี้จะไปสร้างที่บางละมุง 300 ยูนิต พื้นที่หลังละประมาณ 34-40 ตารางเมตร ราคาหลังละ 1 ล้านบาท 3.การออม ให้ผู้สูงอายุออมเงินตั้งแต่อายุ 45 ปีขึ้นไป โดยรัฐจะสนับสนุนปีละ 1,300 บาท ซึ่งจะเป็นเงินที่เก็บไว้ใช้ในวัยเกษียณ 4.สภาพแวดล้อม ต้องมีโรงเรียนผู้สูงอายุอยู่ใกล้บ้าน
นายสมคิดกล่าวอีกว่า ในส่วนกฎหมายคุมมาตรฐาน “ผู้สูงอายุ” นั้น ทาง พม.เป็นหลักในการดำเนินงานรับหน้าที่นำเรื่องเข้าคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ แต่ก็ได้มีการทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และประสานกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว มีการประชุมรายงานผลร่วมกันในทุกเดือน ในเรื่องการทำให้การดูแลผู้สูงอายุในภาครัฐและเอกชนเป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน