ความเชื่อเรื่องอันตรายของควันบุหรี่มือสอง ช่วยลดโอกาสเริ่มสูบในวัยรุ่น

 

ความเชื่อเรื่องอันตรายของควันบุหรี่มือสอง ช่วยลดโอกาสเริ่มสูบในวัยรุ่นความเชื่อว่าควันบุหรี่มือสองเป็นอันตรายต่อสุขภาพของวัยรุ่น และของผู้ปกครองสัมพันธ์กับการริเริ่มการสูบบุหรี่ของวัยรุ่น

 

มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยงานวิจัยของ แอนนา ซอง และ ศ.สแตน กล๊าซ จากศูนย์วิจัยการควบคุมยาสูบ มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ที่ตีพิมพ์ในวารสารสุขภาพวัยรุ่น  ฉบับเดือนธันวาคมนี้ที่พบว่า ความเชื่อว่าควันบุหรี่มือสองเป็นอันตรายต่อสุขภาพของวัยรุ่น และของผู้ปกครองสัมพันธ์กับการริเริ่มการสูบบุหรี่ของวัยรุ่น โดยวัยรุ่นและผู้ปกครองที่ยิ่งเชื่อว่าควันบุหรี่มือสองเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากเท่าไร  โอกาสที่จะติดบุหรี่ของวัยรุ่นก็จะยิ่งลดลง โดยวัยรุ่นที่เชื่อว่าควันบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โอกาสริเริ่มการสูบบุหรี่จะลดลงโดยเฉลี่ย 37% และวัยรุ่นที่เชื่อว่าควันบุหรี่มือสองเป็นอันตรายมากที่สุด  โอกาสที่จะเริ่มการสูบบุหรี่ลดลงถึง 75% ในขณะที่ความเชื่อของผู้ปกครองว่าควันบุหรี่มือสองเป็นอันตรายต่อสุขภาพจะลดโอกาสที่วัยรุ่นจะริเริ่มการสูบบุหรี่ลง 36% และผู้ปกครองที่เชื่ออย่างมากว่าควันบุหรี่มือสองเป็นอันตรายต่อสุขภาพ  จะทำให้วัยรุ่นมีโอกาสริเริ่มการสูบบุหรี่ลดลง 74% 

 

ทั้งนี้ความเชื่อว่าควันบุหรี่มือสองเป็นอันตรายต่อสุขภาพมีน้ำหนักสำคัญกว่าอิทธิพลของเพื่อนที่สูบบุหรี่ต่อการริเริ่มการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นถึง 3 เท่า ผู้วิจัยเสนอแนะว่า การสนับสนุนให้วัยรุ่นแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยกับการได้รับควันบุหรี่มือสอง และการสนับสนุนให้ผู้ปกครองกำหนดให้บ้านปลอดจากการสูบบุหรี่  จะเป็นนโยบายที่สำคัญมากในการป้องกันการริเริ่มการสูบบุหรี่ของเยาวชน โดยเฉพาะในบ้านที่มีผู้สูบบุหรี่อาศัยอยู่  เนื่องจากเป็นการส่งสัญญาณตลอดเวลาว่า ควันบุหรี่มือสองเป็นอันตราย จึงห้ามสูบบุหรี่ในบ้านซึ่งปัจจุบันนี้ประชาชนประเทศต่างๆ ได้มีการห้ามสูบบุหรี่ในบ้าน แม้จะมีคนในบ้านเป็นคนสูบบุหรี่ก็ตาม โดยในอังกฤษมีการห้าม 19% สหรัฐอเมริกา 27.9% แคนาดา 31.5% และออสเตรเลีย 43%  สำหรับประเทศไทยข้อมูลการสำรวจ พ.ศ.2549 พบว่า ร้อยละ 58  ของผู้ที่สูบบุหรี่สูบในบ้าน และวัยรุ่นอายุ 13-15 ปีได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้าน 47.8% และ 68.5% สัมผัสกับควันบุหรี่มือสองจากแหล่งอื่นนอกบ้าน ที่สำคัญมีวัยรุ่นไทยเพียง 68.2% เท่านั้นที่เชื่อว่าควันบุหรี่มือสองเป็นอันตรายต่อพวกเขา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่

 

 

update 15-12-52

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์         

 

Shares:
QR Code :
QR Code