“ความรัก” ไขความลับครอบครัว

ใช้ชมเชย ขอบคุณ เสนอแนะ คาดหวัง ขอบ่น เป็นตัวเชื่อม

 

 “ความรัก” ไขความลับครอบครัว

 

              14 เมษายนของทุกปี นอกจากจะอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของคนไทยแล้ว ยังถือเป็น “วันครอบครัว” อีกด้วย …ซึ่งในสังคมไทย “ครอบครัว ถือเป็นสถาบันที่มีความสำคัญยิ่ง..ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ศาสนาใด ล้วนต้องมีครอบครัวด้วยกันทั้งสิ้น โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคอยค้ำจุนให้ครอบครัวแข็งแกร่งมาได้จนถึงทุกวันนี้ คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “ความรักความอบอุ่น” โดยเฉพาะจากผู้เป็นพ่อแม่ ซึ่งนั่นจะส่งผลให้ครอบครัวเป็นครัวครัวได้อย่างแท้จริง

 

              แต่ทว่าครอบครัวในปัจจุบัน “ความห่างเหิน” เริ่มคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบๆ เพราะในสภาพสังคมที่เร่งรีบ การพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่ไปไกลกว่าสมัยก่อน ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้สมาชิกในคอบครัวมีการปฏิสัมพันธ์ พูดคุย ทำกิจกรรมร่วมกันน้อยลง …เมื่อเป็นเช่นนี้ “ช่องว่าง ระหว่างคนในครอบครัวจึงเกิดขึ้น นำมาสู่ความไม่เข้าใจ และทำให้เกิดปัญหาครอบครัวตามมา…

 

              อาจยังจบเพียงแค่นี้!!! เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้นในครอบครัว ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคงหนีไม่พ้น เด็กและเยาวชน เมื่อคนในครอบครัวไม่มีเวลา ดูแลเอาใจใส่ ที่พึ่งพาต่อมาของพวกเขาจึงกลายเป็นเกม เพื่อน หรือแม้กระทั่งสิ่งยั่วยุอื่นๆ ที่จะนำเด็กและเยาวชนเหล่านี้ไปสู่ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็กติดเกม ยาเสพติด และอื่นๆ อีกมากมาย…

 

              และเมื่อเป็นแบบนี้ “การสร้างความอบอุ่นให้เกิดขึ้นในครอบครัวจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งสร้างให้กลับมาอีกครั้ง… ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องยากเพียงแต่ต้องเริ่มจากการพูดชมเชย และขอบคุณ ในขั้นตอนนี้จำเป็นต้องทำบ่อยๆ เนื่องจากจะเป็นประตูสู่การสื่อสารสองทาง และจะต้องมีการชมเชยกันอย่างจริงใจ เป็นรูปธรรมมากกว่านามธรรม ตามมาด้วยมีคำถามอะไรไหม หลังจากที่มีการชมเชย และขอบคุณกันแล้วในครอบครัวแล้ว ก็จะเป็นโอกาสในการพูดคุยกัน โดยในครอบครัวควรมีการเปิดโอกาสให้มีการซักถามคำถามกัน เช่น บางทีลูกอาจจะมีคำถามว่า ทำไม คุณพ่อไม่เลิกดื่มเหล้าสูบบุหรี่ละค่ะในขณะเดียวกันพ่อก็ควรจะได้ถามลูกว่า วันนี้ไปเรียนมามีการบ้านไหม๊ เรื่องอะไรเหรอ???” ซึ่งนั้นจะเป็นการเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกโดยแท้

 

              ข้อต่อมา คือการเสนอแนะ ในทุกครอบครัวควรสร้างบรรยากาศให้มีการเสนอแนะได้ ให้ลูกได้มีการเสนอบ้างว่าอยากทำอะไร อยากเห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงในครอบครัวบ้าง เพื่อให้เขารู้ว่าทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว สามารถเสนอความคิดเห็นได้…

 

              การขอบ่น ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ควรมีในครอบครัว เพราะทุกคนนั้นควรมีสิทธิ์ที่จะบ่นได้เท่าเทียมกัน เช่น คุณแม่อาจจะบ่นว่าอากาศแบบนี้ร้อนจังเลย แล้วทำไมหนูถึงยังไม่เข้านอนดึกแล้วนะ ในขณะที่ลูกก็มีสิทธิ์บ่นได้ว่าเบื่ออาหารนี้แล้ว พ่อบ้านก็มีสิทธิ์บ่นได้ และข้อสุดท้าย คือ ความคาดหวัง ในครอบครัวที่อบอุ่น ทุกคนสามารถบอกความคาดหวังได้ เช่น ลูกคาดหวังว่าเสาร์ อาทิตย์นี้คุณพ่อจะอยู่บ้าน หรือจะพาหนูไปเที่ยว สิ่งนี้อย่างน้อยให้เขาได้พูดออกมา จะทำได้หรือไม่ได้ก็ว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง

 

              ทั้ง 5 ขั้นตอนนี้ ต้องทำอย่างน้อยที่สุดอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ให้มีช่วงเวลาก่อนทานข้าว หลังทานข้าว หรือตอนเย็น ก่อนดูโทรทัศน์ด้วยกัน เชื่อเถอะว่า…ชีวิตครอบครัวจะมีความอบอุ่น และมีความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น

 

              แนวทางที่จะเพิ่มความรักความสัมพันธ์ และความอบอุ่นของคนในครอบครัว หรือการทำกิจกรรมทำร่วมกันภายในครอบครัวก็ถือเป็นส่วนสำคัญ ที่จะช่วยลดช่องว่างระหว่างกันในครอบครัวลงได้ เพราะนอกจากจะช่วยให้ทุกคนมีเวลาอยู่ด้วยกัน พูดคุยกันมากขึ้น แล้วยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายกว่าการนั่งพูดคุยอยู่ที่บ้าน

 

              ด้วยเหตุนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนครอบครัวไทยได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน และใกล้ชิดกันมากขึ้น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. จึงจัดให้มีการโครงการ “บัตรเดียวเที่ยวยกครัว ทัวร์พิพิธภัณฑ์รอบกรุง” (HAPPY FAMILY DAY CARD) เพื่อช่วยสร้างสัมพันธภาพระหว่างครอบครัวให้ใกล้ชิดกันในวันหยุด ด้วยการใช้บัตรนี้ พาครอบครัวไปเที่ยวในแหล่งเรียนรู้ของรัฐได้ฟรี และใช้เป็นส่วนลดในสถานที่ของเอกชน รอบกทม.และปริมณฑล กว่า 100 แห่ง โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดการรับบัตรฟรี ได้ที่ www.happyfamilyday.com

              เมื่อความรักความอบอุ่นในครอบครัวเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาต่างๆ อีกทั้งยังเป็นตัวเพิ่มความสุขให้คนในสังคมได้ 14 เมษายนวันครอบครัวนี้ ถือเป็นฤกษ์ งามยามดี ที่จะเริ่มหันมาให้ความสนใจ มอบความรักให้แก่กันในครอบครัว เพื่อสังคมจะได้น่าอยู่ต่อไป…

เรื่องโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

 

 

 

Update 14-04-53

 

 

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code