ความปลอดภัยบนท้องถนน เรื่องสำคัญที่ต้องแก้ไข
ภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุสะเทือนขวัญบนท้องถนนถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นข่าว ให้เราเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ และสื่อต่างๆ อยู่มากมายทุกวัน ซึ่งนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงและเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงสาธารณสุข พบว่าทุก ๆ ปี จะมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางท้องถนน ประมาณ 14,000 คน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 2 คน ซึ่งไม่นับรวมผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่าแสนราย และอีกหลายหมื่นรายต้องกลายเป็นผู้พิการ สร้างความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สินเป็นมูลค่าเทียบเท่ากับงบประมาณที่สามารถสร้างสนามบินนานาชาติได้อีก 1 แห่ง (หลายแสนล้านบาท)
นายแพทย์วิทยา ชาติบัญชาชัย ประธานคณะทำงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด หรือ สอจร. และผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลก ด้านการป้องกันอุบัติเหตุ กล่าวว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ประเทศไทยต้องเร่งแก้ไข เพราะเป็นสาเหตุลำดับต้น ๆ ที่ทำให้ประชากรไทยเสียชีวิต และมีแนวโน้มว่าผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรจะเพิ่มมากขึ้น หากไม่เอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหา
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐ โดยกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงสาธารณสุข ได้ประสานความร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นให้ได้กึ่งหนึ่ง
ซึ่งนายแพทย์วิทยา ชาติบัญชาชัย ประธานคณะทำงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด หรือ สอจร. กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ทางกระทรวงฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านความปลอดภัยทางถนน พ.ศ 2554-2558 ซึ่งประกอบด้วยมาตรการ 5 ด้าน คือ การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยทางถนน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมการใช้ยานพาหนะที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ใช้ถนน และการดูแลภายหลังเกิดอุบัติเหตุ แต่ขณะนี้ทำได้เพียงแค่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น ซึ่งยังไม่สามารถช่วยลดสาเหตุการเสียชีวิตได้มากเท่ากับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้รถใช้ถนน
และในโอกาสที่องค์การสหประชาชาติ ประกาศให้วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันรำลึกถึงเหยื่อผู้สูญเสีย จากอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 18 พฤศจิกายน นี้ จึงเป็นอีกครั้งที่คนไทยทุกคนจะได้ร่วมกันรณรงค์ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน ขณะที่หน่วยงานและมูลนิธิในประเทศ เช่น มูลนิธิเมาไม่ขับ ได้เตรียมจัดกิจกรรมรณรงค์ขึ้นเช่นกัน เพื่อไม่ให้คนไทยตระหนักถึงความปลอดภัยของตนเอง เฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น
ที่มา : กรมประชาสัมพันธ์