ควบคุมปริมาณไขมันทรานส์ในอาหาร 4 กลุ่ม ป้องกันโรคติดต่อไม่เรื้อรัง

ที่มา : ไทยรัฐ


คุมคุมปริมาณไขมันทรานส์ในอาหาร 4 กลุ่ม ป้องกันโรคติดต่อไม่เรื้อรัง thaihealth


แฟ้มภาพ


ไขมันทรานส์พบได้ในอาหารและขนมจำพวกเบเกอรี่ โดนัท ขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ หรืออาหารที่มีส่วนผสมของเนยขาว ครีมเทียม เนยเทียม หรือมาการีนในผลิตภัณฑ์ และยังพบมากในการปรุงอาหารด้วยการทอด หากรับประทานในปริมาณที่มากจะทำให้ระดับคอเรสเตอรอลในเลือดสูง เสี่ยงต่อการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ดำเนินการศึกษาปริมาณไขมันทรานส์ในอาหารและผลิตภัณฑ์อาหารที่มีวางจำหน่ายในไทย ในปีงบประมาณ 2562 เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวงสาธารณสุข ในการส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืนโดยใช้ตัวอย่างอาหารและผลิตภัณฑ์อาหารที่อาจมีการใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนเป็นส่วนประกอบจาก 4 กลุ่มอาหารและผลิตภัณฑ์


4 กลุ่มอาหารและผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1.ไขมันและผลิตภัณฑ์(เนยเทียมเนยขาวและผลิตภัณฑ์) 2.เบเกอรี (เวเฟอร์ คุกกี้ พายพัฟ และโดนัท) 3.ขนมปังขาว และขนมปังโฮลวีต และ 4.ขนมขบเคี้ยว(มันฝรั่งทอดกรอบ) พบว่ากลุ่มไขมันและผลิตภัณฑ์มีปริมาณไขมันทรานส์เฉลี่ย 0.07 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค(หนึ่งหน่วยบริโภคอ้างอิง ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ หรือประมาณ 13.5 กรัม) กลุ่มเบเกอรีมีปริมาณไขมันทรานส์เฉลี่ย 0.05 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค (หนึ่งหน่วยบริโภคอ้างอิงสำหรับเวเฟอร์และคุกกี้ ประมาณ 30 กรัม และหนึ่งหน่วยบริโภคอ้างอิงสำหรับพายพัฟและโดนัทประมาณ55กรัม)กลุ่มขนมปังขาวและขนมปังโดนัทประมาณ 55 กรัม) กลุ่มขนมปังขาวและขนมปังโฮลวีตมีปริมาณไขมันทรานส์เฉลี่ย 0.03 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค (หนึ่งหน่วยบริโภคอ้างอิงประมาณ 50 กรัม) และกลุ่มขนมขบเคี้ยวมีปริมาณไขมันทรานส์เฉลี่ย 0.03 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค (หนึ่งหน่วยบริโภคอ้างอิง ประมาณ 30 กรัม) ผลการตรวจพบว่าปริมาณไขมันทรานส์เฉลี่ยใน 4 กลุ่มอาหารและผลิตภัณฑ์อยู่ในช่วง 0.03-0.07 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภคซึ่งถือว่าต่ำกว่าคำแนะนำขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ที่กำหนดไว้มาก คือ ไม่เกิน 0.5 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค


นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ไขมันเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย แต่การบริโภคไขมัน โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ในปริมาณมากอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีจึงควรบริโภคไขมันในปริมาณน้อย

Shares:
QR Code :
QR Code