“ครู-อาจารย์” ร่วมแก้ไข “ท้องไม่พร้อม” ได้อย่างไร

            เมื่อชีวิตของคนเรามีความเกี่ยวข้องกับเรื่อง “เพศ” ตั้งแต่เกิดเป็นเด็กหญิง เด็กชาย การจะห้ามแต่ละชีวิตมิให้ข้องเกี่ยวกับเรื่อง “เพศ” จึงเป็นเรื่องยาก ฉะนั้นบทบาทของผู้ใหญ่ที่อยู่รายล้อมชีวิตเด็ก จึงมีหน้าที่สำคัญที่จะต้องสอนหลักคิด วิเคราะห์ และปลูกฝังสิ่งดีงามให้พวกเขาตั้งแต่วัยกระเตาะ เพื่อเป็นแรงสนับสนุนให้พวกเขาเติบโตขึ้นมาอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม


/data/content/25697/cms/e_abcjkoruy347.jpg


                ดังนั้น บทบาทของ “ครู – อาจารย์” ซึ่งเปรียบเสมือน “พ่อแม่” คนที่สองของเด็กๆ จึงไม่อาจหลีกหนีหน้าที่และภารกิจที่จะร่วมสร้างอนาคตให้แก่เด็กไทยไปได้  


     /data/content/25697/cms/e_aceglnqvwy45.jpg       ครูใหม่ – วิมลศรี ศุษิลวรณ์ คุณครูประจำโรงเรียนเพลินพัฒนา จ.กรุงเทพฯ ได้แลกเปลี่ยนเรื่องราวการบ่มเพาะนักเรียนในโรงเรียนให้เข้าใจเรื่องของเพศ ผ่านการเรียนการสอนและการปลูกฝังตั้งแต่ชั้นอนุบาล ในเรื่อง “กลิ่นสะอาด” ต้องสอนเด็กให้รู้จักความสะอาดในตัวเองเป็นอย่างแรก ถัดมาคือความสะอาดของร่างกาย สิ่งของ และเมื่อเติบโตขึ้นจะส่งผลต่อการแยกแยะสิ่งดีและไม่ดี รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ


                “กฎของโรงเรียนที่คุณครูทุกคนจะสอนเด็กวัยประถมคือ 1 ไม่ทำร้ายตัเอง 2 ไม่ทำร้ายคนอื่น 3 ไม่ทำลายข้าวของ หากเด็กรู้จักและปฏิบัติจนเป็นนิสัยเขาจะอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมได้ดี รู้จักคุณค่าของตัวเอง รักตัวเอง รักผู้อื่น และรักสิ่งรอบตัว เด็กจะกระทำในสิ่งดีๆ และเมื่อเวลาทำผิดพลาดจะมีความพยายามในการแก้ไขให้ดีขึ้น”


                ทั้งนี้ การสอน “เพศศึกษา” จะต้องสอนและปูพื้นฐานให้เด็กทุกคนโดยครอบคลุมทั้ง 6 มิติ คือ การพัฒนาตามช่วงวัยของมนุษย์ การมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น การพัฒนาทักษะส่วนบุคคล พฤติกรรมทางเพศ สุขภาพทางเพศ สังคมและวัฒนธรรม


         เมื่อวัยรุ่น นับเป็นวัยที่มีความกระตือรือร้นต่อสิ่งรอบตัว การกระตุ้นให้นักเรียนใช้ศักยภาพไปในทางที่ถูกต้อง มองเห็นคุณค่าในตัวเอง เคารพตัวเองและผู้อื่นเป็น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ “ครู” ไม่ควรละเลย


            ครูแจ๊ส – พัชนา มหพันธ์ คุณครูประจำโรงเรียนปัญญาประทีป จ.นครราชสีมา เผยเทคนิคการปลูกฝังนักเรียนในระดับมัธยมว่า ส่วนใหญ่จะพบปัญหาเรื่องเพศ ความรัก พฤติกรรมติดเทคโนโลยี ติดสื่อสังคมออนไลน์ มีการใช้คำพูดจาที่หยาบ ในระยะแรกๆ คุณครูต่างพากันจ้องจับความผิดของนักเรียน สอดส่องความประพฤติ พยายามห้าม/data/content/25697/cms/e_hikpqstuxz38.jpgและกีดกัน จนทำให้ความสัมพันธ์ของครูและนักเรียนเกิดความระแวงและไม่อบอุ่นต่อกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงเป็นโจทย์ให้ครูต้องแก้ไข  


                “โรงเรียนบ่มเพาะชีวิตนักเรียนทั้งทางวิชาการ วิชาชีพ วิชาชีวิต นักเรียนจะต้องรู้จัก “กิน อยู่ ดู ฟัง” เป็น สามารถ “สื่อสาร” กับคนรอบข้างโดยเกิดจากความคิดที่ดี นอกจากนี้แล้วต้องรู้จัก “จิต” ดูจิตใจของตัวเองเป็น และ “คิดเป็น”  ครูจะให้นักเรียนตั้งเป้าหมายชีวิตตัวเองตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 1 ใน วิชาพัฒนาตน และเสริมทักษะทางด้านนั้นๆ ที่เด็กอยากพัฒนา เพื่อเป็นการสร้างเหตุปัจจัยแล้วนำพาเด็กไปถึงเป้าหมาย


                วิชาเด็กแนวภาคค่ำ หรือวิชาแนะแนว เน้นการใฝ่รู้ด้วยตัวเอง รู้จักคิดตั้งคำถาม กล้าแลกเปลี่ยนมุมมองกับเพื่อนอย่างนุ่มนวล น่าฟัง ครูจะนำเนื้อหาที่เกี่ยวกับปัญหาในช่วงวัยรุ่นที่เด็กต้องเจอไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพื่อน เรื่องความรัก เรื่องเพศศึกษา โดยการนำละคร ซีรีย์ หรือเพลงมาให้นักเรียนวิเคราะห์ พิจารณา ตั้งคำถามให้นักเรียนคิดหาคำตอบ ซึ่งสาระสำคัญของวิชานี้คือ การฝึกคิด และสอนไม่ให้ดูถูกใคร เคารพตัวเองและผู้อื่น ให้เกียรติเพศตรงข้าม ให้มองย้อนดูตัวเอง คิดว่าจะเกิดผลอะไรบ้างถ้าทำในสิ่งที่ไม่ดี อะไรควรทำหรือไม่ควรทำ” ครูแจ๊ส กล่าวทิ้งท้าย


 


 


         เรื่องโดย นางสาวอาภาวรรณ  โสภณธรรมรักษ์ Team content www.thaihealth.or.th


         ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code