คนไทยเกือบครึ่งหยุดดื่มเหล้า 30 วัน ถวายในหลวง ร.๙
ที่มา : manager.co.th
แฟ้มภาพ
เปิดผลสำรวจคนไทยเกือบครึ่งหยุดดื่มเหล้า เพื่อถวายความอาลัยในหลวงรัชกาลที่ ๙ ปลื้ม 22.2% ตั้งใจเลิกดื่มตลอดชีวิต ชี้ช่วยประหยัดรายจ่าย ลดคดีอุบัติเหตุ
ศ.พญ.สาวิตรี อัษณางค์กรชัย ผอ.ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) เปิดเผยว่า ศวส.ร่วมกับศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB) ได้สำรวจสถานการณ์การดื่มสุราของประชาชน ในช่วงถวายความอาลัยต่อในหลวง รัชกาลที่9 ช่วง 30 วัน จำนวนตัวอย่าง 1,612 ราย อายุ15ปีขึ้นไปในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ อุดรธานี และสุราษฎร์ธานี พบว่า ประชาชนเกือบครึ่ง 46.3% ไม่ดื่มเลย และลดการดื่มเหลือเพียง 1-3 ครั้ง 38.3% ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบการดื่มในช่วงถวายความอาลัยกับช่วงปกติ พบว่า ดื่มลดน้อยลงกว่าปกติ 29.2% โดยให้เหตุผลว่า ต้องการถวายความอาลัยจึงงดรื่นเริง 74.8% งดดื่มถวายพระองค์ท่าน45.3%และไม่มีงานเลี้ยงสังสรรค์จึงงดดื่ม19.8%
ศ.พญ.สาวิตรี กล่าวว่า สำหรับความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เมื่องดดื่มช่วงถวายความอาลัย30 วัน คือ ประหยัดเงิน 66.2% อีกทั้งช่วยลดการบาดเจ็บ ลดการกระทำความผิด/คดีที่เกี่ยวข้องกับสุรา คือ ผู้กระทำความผิดที่ถูกจับกุมดำเนินคดีที่สถานีตำรวจมีอาการเมาสุราหรือมีกลิ่นสุรา ลดลงจาก 24.6%เหลือ 18.2%จำนวนผู้ได้รับอุบัติเหตุที่รักษาที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลลดลงจาก 6.9% เหลือ 6.3% นอกจากนี้ ได้ศึกษาอิทธิพลของการดื่มสุราก่อนเกิดเหตุ ที่ห้องฉุกเฉิน พบว่ามีผู้บาดเจ็บตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์จากลมหายใจในช่วงถวายความอาลัย 30 วัน ลดลงมากจาก 19.1% เหลือ 9.4% และที่น่าดีใจ คือ กลุ่มตัวอย่างตั้งใจจะทำความดีเพื่อถวายความอาลัย ด้วยการ ทำประโยชน์ให้กับส่วนรวม78.3%ประกอบอาชีพสุจริต 73.9% ละเว้นอบายมุข 40.8% ที่สำคัญคือกลุ่มตัวอย่างตั้งใจเลิกดื่มสุราตลอดชีวิต 22.2%
“จากผลสำรวจ ถือว่าประชาชนเริ่มมองตนเองและเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต ตั้งใจลดละเลิก ในสิ่งที่ไม่จำเป็น สอดคล้องกับ พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2496 ความว่าในการดำรงตนในภายหน้านั้น ท่านจะต้องประพฤติให้ดีให้เหมาะสมแก่ฐานะรู้จักผิดและชอบ ประกอบอาชีพโดยสัมมาอาชีวะ ไม่เสเพล และไม่ปล่อยตนให้เป็นทาสแห่งอบายมุขต่างๆ ดังนี้แล้ว ท่านก็จะสามารถเป็นที่พึ่งแก่ตนเองและครอบครัวของท่าน และจะเป็นที่นับถือของบุคคลอื่น อย่างไรก็ตาม ขอเชิญชวนประชาชนลดละเลิกอบายมุข เพื่อถือว่าเป็นการปฏิบัติบูชาที่พุทธองค์ทรงยกย่องว่า เป็นการสร้างบุญกุศลที่สูงสุดสมกับการถวายเป็นพระราชกุศลอย่างแท้จริง” ศ.พญ.สาวิตรี กล่าว