คนหัวใจหิน งดเหล้าครบพรรษา ถวายอาลัย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
ความอาลัยของพสกนิกรไทยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทำให้มีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง และมาลงนามแสดงความอาลัย ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง ไม่ขาดสาย แล้วยังมีเหล่าจิตอาสามาทำประโยชน์และให้การช่วยเหลือประชาชน
ขณะที่ วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร เขตบางกอก น้อย กรุงเทพฯ เมื่อวันก่อน จัดงาน "คนหัวใจหิน งดเหล้าครบพรรษา ถวายความอาลัยพ่อของแผ่นดิน" เพื่อเชิดชูบุคคลต้นแบบที่สามารถงดเหล้าได้ตลอดช่วงเข้าพรรษาปี 2559 และเป็นการทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เป็นที่ทราบกันดีว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผล กระทบอย่างมากต่อสุขภาพของผู้ดื่มและยังเป็นต้นเหตุของปัญหาอื่นตามมาอีกมากมาย โครงการรณรงค์งดเหล้าครบพรรษาช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมา โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และภาคีเครือข่าย ทำให้เกิดพลังขับเคลื่อนของคนในชุมชนที่ไม่ใช่แค่งดเหล้าเข้าพรรษาเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่การงดเหล้าต่อเนื่องหลังออกพรรษา สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการเลิกเหล้าได้ตลอดชีวิต
ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. บอกว่า ภารกิจในการงดเหล้าเข้าพรรษาเป็นการร่วมกันทำให้สังคมไทย ลดความสูญเสียและปัญหาจากน้ำเมา สิ่งที่เราทุกคนได้ร่วมกันทำถือเป็นการปฏิบัติบูชารูปแบบหนึ่ง เราจะทำต่อไปอย่างเต็มกำลังและมุ่งมั่นที่จะเดินตามรอยเท้าพ่อ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ในปีที่ผ่านมาพบว่า มีคนงดดื่มได้ตลอดพรรษาถึง 8 ล้านคน สามารถประหยัดเงินชาติที่ใช้จ่ายไปเพื่อการดื่มได้มากถึง 30,000 ล้านบาท ขณะที่จำนวนอุบัติเหตุลดลงกว่า 15% ถ้าผู้ที่งดเหล้าเข้าพรรษาได้ทบทวนตัวเองอย่างจริงจัง จะพบว่าความสุขที่เคยหายไปได้กลับคืนมา ทั้งความสุขของตัวเองและคนในครอบครัว สุขภาพที่ทรุดโทรมจะค่อยๆ ดีขึ้น มีเงินเหลือเก็บจากเดิมที่เคยหมดไปกับค่าเหล้า
"บางคนบอกว่ามีเวลาเล่นกับลูก ทำสวนปลูกผัก สอนการบ้านลูกและอื่นๆ อีกมากมาย หากบันทึกเรื่องราวทั้งหมดไว้อย่างจริงจังจะทำให้ตัดสินใจได้เองว่า จะเดินหน้าชีวิตต่อไปอย่างไรให้มีความสุขเหมือนช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา" ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส.ให้ข้อคิด
สอดคล้องกับ ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการ สคล. กล่าวเสริมว่า แม้จะผ่านพ้นวันออกพรรษา ซึ่งตรงกับวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่อยากขอเชิญชวนผู้ที่เลิกเหล้าจนครบพรรษาแล้วให้เลิกเหล้าต่อไปเพื่อทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล ถือเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่าน คือ หยุดในสิ่งที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะการดื่มเหล้าซึ่งไม่ได้จำเป็นต่อชีวิตแต่อย่างใด
คนหัวใจหินต้นแบบเลิกเหล้าครบพรรษา อย่าง ชาญ ยิ้มจันทร์ กำนันตำบลพักทัน อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี อายุ 57 ปี เล่าว่า ดื่มเหล้ามาตั้งแต่อายุ 18 ปี เคยดื่มหนักทั้งเหล้าขาว เหล้าสี ดื่มจนมือสั่น หมดเงินค่าเหล้า 200-300 บาทต่อวัน ตกเดือนละ 9,000 บาท กินแต่เหล้า ข้าวไม่ค่อยกิน ซูบผอมจนได้รับฉายาว่าไอ้แห้งแห่งเมืองสิงห์ ลูกเมียไม่อยากเข้าใกล้
"ปีนี้สมัครใจงดเหล้าครบพรรษาและตั้งใจจะเลิกเหล้าตลอดชีวิตเพื่อเป็นปฏิบัติบูชาถวายบุญกุศลแด่ในหลวงของชาวไทย พระองค์จะอยู่ในใจของประชาชนชาวไทยตลอดไป นอกจากนี้สิ่งดีๆ ที่ได้จาก สสส. สคล. จากการร่วมงดเหล้า คือ สุขภาพดีขึ้น ภรรยาบอกว่าเหมือนได้สามีใหม่ ทำกับข้าวให้ทานทุกวัน ลูกๆ เข้าใกล้และมีเงินเก็บทุกเดือน จะซื้อหาอะไรก็ไม่เดือดร้อน เลิกเหล้าแล้วดีจริงๆ เหล้าเลิกได้ถ้าใจมุ่งมั่น เลิกเถอะ เหล้าไม่เคยทำให้ใครดี มีแต่ความเสียหาย" กำนันชาญบอกด้วยความภูมิใจ
"เลิกเหล้าแล้วเราได้ทั้งครอบครัวที่อบอุ่นและได้สุขภาพที่ดีกลับคืนมา" เป็นคำยืนยันของ ชนะการณ์ สืบศรี หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการ จากอำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี อายุ 46 ปี คนหัวใจหินชาวอินทร์บุรีแบ่งปันประสบการณ์ว่า แรงบันดาลใจที่ทำให้สามารถเลิกเหล้าได้สำเร็จมาจากต้องการให้ครอบครัวมีความสุข การทำเพื่อพ่อแม่และการทำความดีเพื่อถวายในหลวง
"ที่น่าดีใจลูกศิษย์นำเราไปเป็นแบบอย่างและเลิกเหล้าตาม เป็นสิ่งที่สร้างความภูมิใจในฐานะอาจารย์ที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกศิษย์ ได้ปฏิญาณตนไว้ว่า หลังจากเลิกเหล้าครบ 3 เดือนนี้แล้วจะเลิกเหล้าไปตลอดชีวิต" ชนะการณ์ คนต้นแบบงดเหล้าเข้าพรรษา ประกาศมุ่งมั่นทำดีถวายในหลวง รัชกาลที่ 9
นอกจากกิจกรรมแสดงความอาลัยครั้งนี้ หลังจากออกพรรษาหากทุกคนเลิกดื่มเหล้าได้ เปลี่ยนเป็นคนใหม่ นอกจากจะสร้างคุณค่าให้แก่ตัวเองแล้ว ยังเพิ่มความรักความอบอุ่นในครอบครัว ทำให้มีรายได้มากขึ้น ซึ่งเป็นความมั่นคงของชีวิตตามแนวพระราชดำริของในหลวง.