“คนรุ่นใหม่ใส่ใจผู้สูงอายุ”
สร้างเครือข่ายอาสาสมัครในชุมชน
ในจำนวนผู้สูงอายุที่มีอยู่ 830 คนที่ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี กว่า 68% เป็นคนแก่ที่ขาดการดูแลเอาใจ เพราะสภาพพื้นที่ตำบลท่าตูมเป็นเขตอุตสาหกรรม ทำให้ประชากรวัยแรงงานต้องออกไปทำงานในโรงงาน ซึ่งต้องทำงานเป็นกะหรือทำงานล่วงเวลาจึงแทบจะไม่มีเวลาเหลือสำหรับคนในครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักถูกทอดทิ้งให้อยู่ที่บ้านตามลำพัง
นั่นคือที่มาของ “โครงการคนรุ่นใหม่ใส่ใจผู้สูงอายุ” ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม ร่วมกับอาสาสมัครและผู้นำชุมชนสร้างเครือข่ายในการดูแลผู้สูงอายุ โดยการพัฒนาความรู้และความเข้าใจของลูกหลานในการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจโดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.
โดยเผยว่า โครงการนี้ส่งเสริมให้ครอบครัวเห็นความสำคัญและสามารถดูแลผู้สูงอายุได้อย่างถูกต้อง และจัดให้มีกิจกรรมต่างๆ เพื่อผู้สูงอายุได้มีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการอบรมเรื่องการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย การฝึกอาชีพเสริมให้กับผู้สูงอายุ โดยเน้นในเรื่องของการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้สูงอายุและลูกหลาน ผ่านการทำงานของ “กลุ่มอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ (อผส.)”
กิจกรรมหลักๆ ของโครงการคือการลงเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง โดยจะเน้นไปที่ผู้สูงอายุที่ด้อยโอกาส ขาดผู้ดูแลซึ่งเราจะมีข้อมูลของผู้สูงอายุที่คนอาสาสมัคร อผส.แต่ละคนรวบรวมไว้โดยทั้ง 10 หมู่บ้านในตำบลท่าตูมจะมีอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุอยู่หมู่บ้านละประมาณ 5 คน
ในการลงพื้นที่แต่ละครั้ง อาสาสมัครจะเข้าไปถามไถ่ผู้สูงอายุว่ากินข้าวได้ไหม สุขภาพตอนนี้เป็นอย่างไร เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มารวมกันตอนประชุม โดยมากพบว่าผู้สูงอายุเป็นโรคเบาหวานกับความดันโลหิต ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากเกี่ยวกับดูแลรักษาสุขภาพของตัวเอง อีกอย่างคือเรื่องมลพิษเพราะในตำบลมีโรงงานจำนวนมาก อากาศไม่ค่อยดี
ส่วนผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ ก็จะถามว่าลูกได้พาไปหาหมอต่อเนื่องหรือไม่ อาการดีขึ้นหรือไม่ ถ้าบ้านไหนไม่มีคนดูแลเมื่อถึงวันที่หมอนัดตรวจก็จะพาไปโรงพยาบาลโดยประสานงานกับทาง อบต. จัดรถไปรับส่ง
นาง
นาง
“เวลามาเยี่ยมก็จะมาตรวจวัดความดัน มีปัญหาเรื่องลูกหลานก็ได้ปรึกษาพูดคุยกัน บางทีก็มาแนะนำให้ว่าอยู่บ้านอย่านอนเฉยๆให้เดินออกกำลังกายแล้วจะแข็งแรงกว่า ทุกครั้งที่มาก็รู้สึกดีใจเหมือนมีลูกหลานมาเยี่ยม ไม่อยากให้กลับอยากให้อยู่คุยนานๆ” คุณยายหวนกล่าว
นางงามจิตต์ จันทรสาธิต ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนโครงการเปิดรับทั่วไป สสส. กล่าวว่า สสส.ได้มีการวางแผนเตรียมความพร้อมรับความเป็นสังคมผู้สูงอายุ ให้กับประชากรที่จะก้าวเข้าสู่วัยผู้สูงอายุว่าจะต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องใดบ้าง เช่น เรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางด้านสุขภาพร่างกาย เพราะถ้าผู้สูงอายุมีการเตรียมตัวที่ดีตั้งแต่แรก ด้วยการรับประทานอาหารที่ถูกต้องครบหมู่ รับประทานอาหารที่มี แคลเซียมสูง ออกกำลังกายที่พอเพียง เราก็จะสามารถลดภาวะกระดูกพรุนได้ หรือการสร้างเครือข่ายผู้สูงอายุหลังการเกษียณอายุ โดยเฉพาะกิจกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ผู้สูงอายุได้มีการพบปะทางสังคม ทำให้เขามีเพื่อน ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดีขึ้น
ที่มา: จดหมายข่าวชุมชนคนรักสุขภาพ ฉบับสร้างสุข ฉบับที่103
update: 09-04-53
อัพเดทเนื้อหาโดย: ภราดร เดชสาร