คณะแพทย์ ม.อ. ผลิตอุปกรณ์สำหรับผู้ป่วยมะเร็งสำไส้ใหญ่
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
แฟ้มภาพ
คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผลิตอุปกรณ์สำหรับผู้ป่วยมะเร็งสำไส้ใหญ่ ชุดอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียม ราคาไม่แพง นำร่องโรงพยาบาลในภาคใต้ ลดต้นทุน ลดการนำเข้า ช่วยเหลือชาวสวนยาง
ผศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ชุด THAI Colostomy Bags หรือชุดอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียม ก็เป็นฝีมือของคนไทย “จากคนไทย สู่คนไทย” ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหลายภาคส่วนและผู้สนับสนุน เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันชุดอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากถวายเทียมมีอยู่หลากหลายชนิดชื่อทางการค้า โดยต่างนำเสนอรูปแบบตามความเหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละราย ราคามีความแตกต่างกันตามชนิดและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ประกอบกับประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตอุปกรณ์ชนิดนี้ได้เองในเชิงอุตสาหกรรม ราคาแพง เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าและภาครัฐต้องเสียงบประมาณสูง มีโรงพยาบาลหลายแห่งดัดแปลงอุปกรณ์ใช้แทนถุงทวารเทียม ประสบปัญหาระหว่างการใช้และมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ระคายเคือง แป้นรั่วซึม หลุดง่ายและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
และจากการศึกษาของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (2556-2558) สถิติการใช้แป้นและถุงทวารเทียมจากต่างประเทศ 2 ยี่ห้อบริษัท พบว่าราคาแผ่นติดผิวหนังรอบทวารเทียมจัดเป็นวัสดุสิ้นเปลืองที่มีราคาแพง แผ่นละ 122-188 บาท ตามขนาดและชื่อของผลิตภัณฑ์ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องจำกัดปริมาณการสั่งซื้อโดยซื้อได้ เดือนละ 5 แผ่นต่อคน ผู้ป่วย หรือญาติจำเป็นต้องเดินทางมาติดต่อซื้อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ บ่อยครั้ง และมีจำหน่ายเฉพาะโรงพยาบาลใหญ่ ๆ บางแห่งเท่านั้น หากคิดค่าใช้จ่ายในการใช้แผ่นติดผิวหนังรอบทวารเทียมของต่างประเทศสำหรับผู้ป่วย จำนวนการใช้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในแต่ละปี โดยในปี 2558 คิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 3,368,547.33 บาทต่อปี
ข้อมูลข้างต้นเฉพาะโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากนับรวมถึงโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ทุกแห่งในประเทศไทย จะมีค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อยในการซื้อวัสดุดังกล่าวจากบริษัทต่างประเทศ เนื่องจากราคาสูง จึงไม่ได้มีการนำมาจำหน่ายให้กับผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่างจังหวัดทั่วไป เกิดความไม่เท่าเทียมกันในการเข้าถึงการบริการระหว่างผู้ป่วยในเขตเมืองใหญ่และต่างจังหวัด หรือบางรายต้องใช้ตลอดชีวิต สิทธ์การรักษาไม่สามารถเบิกได้ หรือมีฐานะเป็นผู้ยากไร้และด้อยโอกาส อาจมีปัญหาในการดูแลทวารเทียม เนื่องจากผู้มีฐานะดีจะสามารถเข้าถึงวัสดุดังกล่าวที่มีราคาสูงได้ดีกว่า ซึ่งการมีโอกาสใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับทวารเทียมที่มีประสิทธิภาพ จะส่งผลต่อความสามารถในการปรับตัวทางสังคมที่ดีขึ้น ตลอดจนอาจมีภาวะเครียดและกังวลจากข้อจำกัดในปริมาณการซื้อ รวมทั้งความไม่สะดวกในการเดินทาง
ประกอบกับนโยบายภาครัฐ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการผลักดันให้ไทยในฐานะผลิตยางพารารายใหญ่ สามารถใช้วัสดุประเภทยางในการเตรียมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์หลากหลายชนิด เพื่อลดการนำเข้าอันเป็นการสูญเสียงบประมาณรายจ่ายเกินความจำเป็น และกลับสามารถสร้างประโยชน์สร้างรายได้ให้กับประเทศชาติ
จึงมีความร่วมมือกันของหลายภาคส่วนนำโดยคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการนำยางมาสังเคราะห์ผลิตอุปกรณ์ และสิ่งสำคัญ คือ การแพ้ยางโดยเฉพาะบริเวณรอบ ๆ ทวารเทียม มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ผู้วิจัยจึงพยายามสกัดโปรตีนจากน้ำยาง เป็นชุดอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียมด้วยยางพาราชนิดสกัดโปรตีน ด้วยเหตุนี้จึงได้มีผู้ที่พยายามคิดค้นผลิตและดัดแปลงในรูปแบบอื่น ๆ และวัสดุอื่นที่มีราคาถูก เป็นวัตถุดิบ หรือทรัพยากรที่สามารถหาได้ง่าย ย่อยสลายได้ง่าย มีคุณภาพที่ดี เพื่อให้เหมาะสมกับเศรษฐกิจของประเทศไทย
ในปัจจุบัน การพัฒนาชุดแผ่นติดผิวหนังรอบทวารเทียมโดยใช้ยางมาสังเคราะห์ให้เกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งสามารถนำมาใช้แทนแผ่นติดผิวหนังรอบทวารเทียมที่นำเข้าจากต่างประเทศ ออกแบบและผลิตถุงรองรับอุจจาระจากทวารเทียมขึ้นเพื่อใช้กับแผ่นติดผิวหนังที่พัฒนา มีประโยชน์ดีกว่าของเดิม คือ ถุงรองรับทวารเทียมที่สามารถลดกลิ่น เก็บเสียงอันไม่พึงประสงค์ สามารถย่อยสลายได้ และออกแบบผลิตอุปกรณ์ฝาครอบพลาสติกขนาดเส้นรอบวงตามขนาดของทวารเทียม ให้มีรูปแบบผลิตภัณฑ์ต่างจากผลิตภัณฑ์ต่างประเทศได้ เพื่อลดปัญหาการจดลิขสิทธิ์
หากสามารถผลิตชุดอุปกรณ์เพื่อดูแลทวารเทียมใช้ได้เองภายในประเทศ สามารถช่วยลดการนำเข้าวัสดุจากต่างประเทศ ช่วยเหลือให้ผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และโรงพยาบาลแห่งอื่นทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงบริการได้โดยง่ายอย่างเท่าเทียมกัน อันจะช่วยส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตของผู้มีทวารเทียมโดยรวมดีขึ้น และสามารถผลิตได้ในเชิงพาณิชย์ให้กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ในอนาคตอีกด้วย อีกทั้ง ยังเกิดประโยชน์ต่อผู้ป่วยและมีความปลอดภัยสูงสุด
ซึ่งภายในงานมีการให้ความรู้ และรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ รวมถึงที่มาของการจัดทำอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียม เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ที่มีการตัดลำไส้ทิ้งเนื่องจากภาวะการเป็นมะเร็งลำไส้ ทำให้ไม่สามารถขับถ่ายทางทวารหนักตามปกติได้ จึงมีความจำเป็นต้องใช้ชุดอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียมมากขึ้น ดังนั้น คณะแพทยศาสตร์ จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ คิดค้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ โดยนำเอาผลผลิตของยางพาราซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของภาคใต้ มาประยุกต์ใช้จนเป็นผลสำเร็จ สามารถลดต้นทุนในการสั่งซื้อชุดทวารเทียมจากต่างประเทศ ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง แต่ยังคงคุณภาพและประสิทธิภาพที่ได้มาตรฐานและเทียบเท่าชุดอุปกรณ์ทวารเทียมจากต่างประเทศ
โอกาสนี้ ทางคณะแพทยศาสตร์ ได้มอบชุดอุปกรณ์รองรับถุงทวารเทียมให้กับผู้ป่วยอีก 4 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลสุราษฏร์ธานี โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลตรัง โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยต่อไป