คกก.สื่อสารเพื่อการปฏิรูปดึงสื่อทุกแขนงร่วมผลักดันปฏิรูปประเทศ
“คณะกรรมการสื่อสารเพื่อการปฏิรูป” ถกนัดแรก ดึงสื่อ “นสพ.-วิทยุ-ทีวี-เคเบิ้ล-เว็บ-วิชาการ” เข้าร่วมระดมความเห็น “มานิจ” ย้ำ “บทบาทสื่อเพื่อการปฏิรูปประเทศ” ไม่ใช่ “ปฏิรูปสื่อ” เสนอเปิดพื้นที่ รับฟังความเห็นประชาชนสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 20 สิงหาคม ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้มีการประชุมคณะกรรมการการสื่อสารเพื่อการปฏิรูป ในคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป(คสป.) ครั้งที่ 1/2553 โดยมีนาย
นายมานิจ แถลงภายหลังการประชุมว่า คณะกรรมการการสื่อสารเพื่อการปฏิรูป ไม่ใช่การเข้ามาปฏิรูปสื่อ แต่เป็นการดึงสื่อมาช่วยปฏิรูประเทศ ทำหน้าที่ในการระดมความเห็นจากสื่อแต่ละแขนงเพื่อเสนอแนวทางต่อการปฏิรูปประเทศ ศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ความเห็น รวมทั้งสนับสนุนบทบาทสื่อ ต่อการสร้างพลังทางสังคมเพื่อการปฏิรูป นอกจากนั้นจะมีการจัดสมัชชารับฟังความคิดเห็นจากสื่อทุกประเภททั่วประเทศ เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายต่อ คสป. และเพื่อเสนอแนะรัฐบาลต่อไป ทั้งนี้ตนเชื่อว่า สื่อมวลชน เป็นพลังสำคัญที่จะสะท้อนเสียงของประชาชนและร่วมกันผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง สร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง
“คาดว่าภายหลังการเปิดพื้นที่รับฟังความคิดเห็น และจัดเวทีสมัชชาสื่อในจังหวัดต่างๆ จะสามารถสรุปแนวทางในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และนำเสนอต่อ คสป. ได้ภายในสิ้นปี 2553 เพื่อนำเสนอในการประชุมใหญ่ คสป. ในช่วงต้นปี
ด้าน รศ.วิลาสินี กล่าวว่า คณะกรรมการการสื่อสารฯ ทำหน้าที่เชื่อมการทำงาน ความคิดเห็นจากคณะกรรมการอีก 13 ชุด ของ คสป. โดยมีโจทย์หลักคือ สื่อจะมีบทบาทสร้างสังคมที่เป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปได้อย่างไร เนื่องจาก สื่อ สามารถสะท้อนความเห็นและปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งในฐานะประชาชน และฐานะสื่อที่มีโอกาสได้เข้าไปเห็นปัญหา และติดตามความเคลื่อนไหวในสังคมมากกว่าภาคส่วนอื่นๆ นอกจากนั้นที่ประชุมหารือในเบื้องต้นว่า นอกจากสื่อเป็นผู้สะท้อน และมีส่วนร่วมการสร้างสังคมที่เป็นธรรมแล้ว ผู้แทนองค์กรสื่อต่างๆ เห็นว่าสิ่งที่สื่อทำได้ทันที คือการปรับพื้นที่ ทิศทางรายการส่งเสริมเนื้อหาดีๆ เพื่อสร้างสังคม รวมไปถึงความพยายามที่จะปรับระบบเรตติ้งรายการให้ลดการเน้นผลกำไร เพิ่มรายการส่งเสริมสังคมให้มากขึ้น ที่ประชุมเสนอให้มีการขอความร่วมมือไปยังสื่อแต่ละแขนงเปิดพื้นที่ อาทิ ในหน้าหนังสือพิมพ์ รายการวิทยุ โทรทัศน์ เพื่อรับฟังความคิดความเห็นจากประชาชน
“ในที่ประชุมได้พูดคุยกันว่าต้องเจาะเข้าไปกลุ่มสื่อบันเทิงมากยิ่งขึ้น เพราะสื่อดังกล่าวเข้าถึงประชาชนมาก ซึ่งนายกสมาพันธ์ผู้จัดรายการวิทยุโทรทัศน์รับที่จะไปดูแลเรื่องดังกล่าวแล้ว” รศ.วิลาสินี กล่าว
ที่มา :สำนักข่าว สสส.
Update:20-08-2553
อัพเดทเนื้อหาโดย:คีตฌาณ์ ลอยเลิศ