‘ข้อความถึงคนที่ยังอยู่’ รณรงค์อุบัติเหตุ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


'ข้อความถึงคนที่ยังอยู่' รณรงค์อุบัติเหตุ thaihealth


"Dead Feed…ข้อความถึงคนที่ยังอยู่" แคมเปญรณรงค์การป้องกันอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 จากการนำเสนอเรื่องราวชีวิตจริงของผู้สูญเสียบุคคลที่รักไปจากเหตุการณ์อุบัติเหตุ โดยเปลี่ยนความโศกเศร้าให้เป็นพลังส่งต่อความห่วงใยไปยังคนรอบข้างในเรื่องการขับขี่ปลอดภัย


"ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงเลยค่ะ มันทำให้ช่วงปีใหม่ของเรานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เป็นปีใหม่ที่หดหู่มากๆ" คำพูดสั้นๆ แต่สั่นคลอนหัวใจคนฟังจากถ้อยคำแฝงความคำนึงของคุณแม่ตุ้ม ผู้ต้องสูญเสีย "น้องอาร์ม" ลูกชาย ไปในอุบัติเหตุก่อนเข้าช่วงปีใหม่


แม่น้องอาร์มยังพิมพ์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของลูกชายเพื่อเตือนสติให้กับเพื่อนๆ น้องอาร์มให้ระมัดระวังอุบัติเหตุจากการเดินทางช่วงปีใหม่ โดยขอให้ทุกคนมีสติ อย่าขับรถเร็ว ด้วยไม่อยากให้มีใครต้องจบชีวิตเพิ่มอีก เหตุการณ์ความสูญเสียดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ปรากฏในคลิปวิดีโอรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ล่าสุดของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภายใต้แนวคิด "Dead Feed…ข้อความถึงคนที่ยังอยู่" ที่จะมอบแง่คิดในช่วงเทศกาลหยุดยาวปีใหม่


ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. เล่าถึงที่มาของแคมเปญรณรงค์ดังกล่าวว่า เป็นการนำเสนอเรื่องราวชีวิตจริงของผู้สูญเสียบุคคลที่รักไปจากเหตุการณ์อุบัติเหตุ โดยเป็นการเปลี่ยนความโศกเศร้าให้เป็นพลังส่งต่อความห่วงใยไปยังคนรอบข้างในเรื่องการขับขี่ปลอดภัย ด้วยการส่งข้อความผ่านโลกโซเชียลมีเดียถึงเพื่อนของผู้ที่จากไปให้รับรู้ถึงความห่วงใย ขับขี่ปลอดภัย ไม่ประมาทจนเกิดอุบัติเหตุความสูญเสียเช่นตัวเอง ซึ่งแม้สิ่งที่พวกเขาทำอยู่นั้นไม่ได้ช่วยให้คนที่รักกลับคืนมา ไม่ได้ช่วยให้เจ็บปวดน้อยลง แต่อย่างน้อยช่วยเตือนสติใครหลายๆ คน ให้เดินทางกลับบ้านไปหาคนที่เขารักได้อย่างปลอดภัย


'ข้อความถึงคนที่ยังอยู่' รณรงค์อุบัติเหตุ thaihealth


สำหรับสถิติการเกิดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ถือว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและรุนแรงมากขึ้น ซึ่งข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุประมาณ 380 คน เพิ่มขึ้นจากปีใหม่ 2558 ถึงร้อยละ 11 ที่สำคัญยังเป็นการเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุสูงถึงร้อยละ 56


"เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว ประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อกลับไปหาครอบครัว เพื่อจะได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข แต่ในทางกลับกันก็สร้างโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุให้สูงขึ้นถึง 2 เท่า และก็เป็นที่น่าเสียดายที่ใครหลายคนไปไม่ถึงจุดหมายในเทศกาลปีใหม่ จากช่วงเทศกาลที่ควรเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ความสมหวัง ที่เห็นคนที่ตัวเองรักกลับมาหา กลับกลายเป็นวันที่หลายครอบครัวต้องเจ็บปวดเพราะสูญเสียคนที่รักที่สุดไปจากอุบัติเหตุ" ดร.สุปรีดากล่าว


สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้น ดร.สุปรีดาระบุปัจจัยหลักว่า มาจากตัวผู้ขับขี่เอง อาจขับขี่ด้วยความประมาท โดยเฉพาะการดื่มแล้วขับ การขับรถเร็วเกินกำหนด โดยพบว่ามีคนเดินถนนถูกชนเสียชีวิตจากการขับรถเร็วถึง 34 คน หรือคิดเป็น 9% ของคนตายจากขับขี่ใช้ความเร็วในเทศกาลปีใหม่ หากเราขับรถด้วยความเร็วที่สูงจะทำให้ผู้ถูกชนมีโอกาสเสียชีวิตสูง เช่น เมื่อขับรถชนคนเดินถนนด้วยความเร็ว 60 กม./ชม. ทำให้มีโอกาสเสียชีวิตถึงร้อยละ 85 รวมถึงการใช้  สมาร์ทโฟนขณะขับขี่ ถ้าขับขี่ด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. เพียงละสายตาไปมองหน้าจอมือถือ 2 วินาที หากเกิดการชนจะมีแรงปะทะเทียบเท่าการตกตึก 13 ชั้น นอกจากนี้ สาเหตุยังเกิดจากถนนและยานพาหนะที่ไม่พร้อมด้วย


'ข้อความถึงคนที่ยังอยู่' รณรงค์อุบัติเหตุ thaihealth


ช่วงปีใหม่ไม่มีของขวัญชิ้นใดที่จะล้ำค่าไปกว่าการที่เราทุกคนได้ "กลับบ้านปลอดภัย" อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัวและใช้ช่วงเวลาที่ดีร่วมกัน ดร.สุปรีดาฝากเกี่ยวกับการเดินทางเพื่อความปลอดภัย ซึ่งมีข้อปฏิบัติ 5 ข้อว่า 1.ไม่ดื่มสุรา ทั้งก่อนและขณะขับรถ 2.พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่น้อยกว่า 7 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง 3.คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถยนต์ และสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ 4.ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถโดยเด็ดขาด และ 5.ขับรถด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด คือไม่เกิน 90 กม./ชม. ในเขตนอกเมือง ในเขตเมืองใช้ความเร็วตามป้ายกำหนด และเขตชุมชนไม่ควรเกิน 50 กม./ชม.


การคำนึงถึงความปลอดภัยในการเดินทาง ไม่เพียงแต่ช่วยให้ตัวเองปลอดภัย ผู้จัดการกองทุน สสส. ย้ำ ยังเป็นการใส่ใจเพื่อนร่วมทาง ทั้งเพื่อนที่ร่วมเดินทางไปพร้อมกัน และเพื่อนที่ใช้ท้องถนนร่วมกัน เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ไม่เพียงแต่ตัวเองที่อาจบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่คนที่เดินทางมาด้วย หรือคนที่ใช้ถนนสัญจรด้วยกัน อาจได้รับผลกระทบจากความประมาทได้


'ข้อความถึงคนที่ยังอยู่' รณรงค์อุบัติเหตุ thaihealth


ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ภาคส่วนต่างๆ ยังต้องร่วมมือกันช่วยกันป้องกันและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุด้วย โดย นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ย้ำว่า การป้องกันเป็นส่วนสำคัญที่สุด เพราะการไม่เกิดอุบัติเหตุเลยถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งมาตรการด่านชุมชนเพื่อป้องกันกลุ่มเสี่ยงยังคงเป็นมาตรการที่ต้องดำเนินการ ขณะที่การรองรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ได้กำชับให้ทุกโรงพยาบาลมีการเตรียมพร้อม ทั้งการรับแจ้งเหตุ การรีบไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือให้เร็วที่สุด ป้องกันการเสียชีวิต ตลอดจนเตรียมความ พร้อมบุคลากร เตียง เวชภัณฑ์ยาต่างๆ และการประสานการส่งต่อ เพื่อดูแลผู้ป่วยอย่างดีที่สุด


เทศกาลปีใหม่นี้ลองหยุดฟังสักนิดกับข้อความจากผู้สูญเสียที่ส่งตรงถึง "คนที่ยังอยู่" หวังว่าการเดินทางกลับไปหาคนที่คุณรักในปีใหม่ 2560 นี้ จะเดินทางด้วยความมีสติ ไม่ดื่มแล้วขับ ไม่ขับรถเร็ว หากไม่อยากให้คนที่คุณรักต้องรอคอย "คุณ" อย่างที่ไม่มีวันหวนกลับมา คุมเข้มขับรถใช้ความเร็วปีใหม่ มีสถิติน่าสนใจพบว่า คนเดินถนนถูกชนเสียชีวิตจากการขับรถเร็วถึง 34 คน หรือคิดเป็น 9% ของคนตายจากขับขี่ใช้ความเร็วในเทศกาลปีใหม่ ถ้าขับรถด้วยความเร็วสูงจะทำให้ผู้ถูกชนมีโอกาสเสียชีวิตสูง เช่น เมื่อขับรถชนคนเดินถนนด้วยความเร็ว 60 กม./ชม. ทำให้มีโอกาสเสียชีวิตถึงร้อยละ 85 รวมถึงการใช้สมาร์ทโฟนขณะขับขี่ ถ้าขับขี่ด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. เพียงละสายตาไปมองหน้าจอมือถือ 2 วินาที หากเกิดการชนจะมีแรงปะทะเทียบเท่าการตกตึก 13 ชั้น

Shares:
QR Code :
QR Code