ขอสิทธิ์คุณแม่มีทางเลือกเพื่อลูก

ที่มา : คมชัดลึก


 


ขอสิทธิ์คุณแม่มีทางเลือกเพื่อลูก thaihealth


แฟ้มภาพ


          ปัจจุบันผู้หญิงไทยทำงานนอกบ้านกันมากขึ้นสมาคมสตรีเพื่อสตรีประเทศไทยจึงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความเข้าใจรวมทั้งบทบาทของผู้หญิงในสังคมยุคใหม่ผ่านโครงการที่หลากหลายเพื่อกระจายความช่วยเหลือและความร่วมมือไปยังกลุ่มสตรีในทุกระดับชั้น


          ศิริขวัญ จันทรางศุนายกสมาคมสตรีเพื่อสตรีประเทศไทย เปิดเผยว่า ล่าสุดสมาคมมีการดำเนินโครงการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้หญิงสามารถเลี้ยงดูลูกให้เติบโตอย่างมีคุณภาพภายใต้สิทธิ์และการสร้างทางเลือกสำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิ์ในด้านโภชนาการสำหรับลูกกับคุณแม่มือใหม่โดยภาพรวมของแม่ที่เป็นผู้หญิงทำงานมีอยู่หลายระดับทั้งในแง่ของรายได้ครอบครัวและระดับการศึกษา ผู้หญิงที่เป็นแม่สามารถศึกษาข้อมูลเรื่องโภชนาการที่ดีจากหนังสือหรือจากผู้ใหญ่คนใกล้ชิดส่วนช่องทางการรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตจำนวนไม่น้อย ใช้เพื่อการพูดคุยไม่ได้ใช้เพื่อการสืบค้นข้อมูล จึงอยากให้ภาครัฐได้เน้นหนักในเรื่องการให้ความรู้คุณแม่อย่างถูกต้องและอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การวางแผนมีบุตรการเตรียมตัวการดูแลครรภ์โภชนาการ และการเลี้ยงดูทารกแรกเกิดถึงสามปีความรู้เหล่านี้จะทำให้ผู้หญิงรู้สิทธิ์และมีทางเลือกในการตัดสินใจได้โดยเฉพาะโภชนาการที่ดีที่ควรส่งเสริมให้คุณแม่ทุกคนรู้และเข้าถึงได้อย่างถูกต้องคือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่


          "โดยธรรมชาติแล้วผู้หญิงจะให้ความสำคัญกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นอันดับแรกจึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องให้การสนับสนุนเพราะเป็นแหล่งอาหารโภชนาการดีที่สุดสำหรับทารกแรกเกิดแถมประหยัดเงินได้มากแต่ก็ยังมีแม่อีกเป็นจำนวนมากที่อาจไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างเต็มที่ สาเหตุจากความเจ็บป่วยของตนเองหรือจากคุณภาพอาหารการกินของแม่เองที่ทำให้น้ำนมแม่คุณภาพต่ำ ลูกกินนมแม่ก็อาจเกิดภาวะทุพโภชนาการตัวไม่โตลูกมีความเจ็บป่วยได้กรณีอย่างนี้คำแนะนำด้านโภชนาการเพื่อเข้าถึงคุณแม่เหล่านี้ส่วนใหญ่จะมาจากบุคลากรด้านสาธารณสุข"ศิริขวัญกล่าว


          นายกสมาคมสตรีย้ำว่า หากจะมีกฎหมายที่ดีเพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการแม่และเด็กแล้วกฎหมายนั้นควรเอื้อประโยชน์และคำนึงถึงสิทธิ์ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างแท้จริงและถ้าหากการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือทางหลักที่แม่ส่วนใหญ่ตั้งใจและเลือกใช้ก็ต้องเปิดกว้างที่จะอำนวยความสะดวกให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จเช่นสถานที่ทำงานทุกแห่งต้องจัดที่ปั๊มนมแม่ให้พนักงานหรือแม้แต่การลาคลอด 90 วัน ตามกฎหมายพนักงานทุกคนสามารถลาได้ครบจริงโดยไม่กระทบสิทธิ์รายได้หรือภาครัฐจะสามารถออกกฎหมายเพิ่มวันลาคลอดให้เท่ากับระยะเวลาที่ต้องเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวคือ6เดือน โดยที่การลานั้นจะต้องไม่กระทบสิทธิ์ในการกลับมาทำงานของผู้หญิงสิทธิ์ที่ยังมีรายได้จากงานที่เคยทำในช่วงที่ลาคลอด/เลี้ยงลูกและส่งเสริมแม่/ผู้ปกครองได้รับความรู้และสามารถเข้าถึงข้อมูลโภชนาการที่ดีสำหรับทารกในวัยแรกเกิดถึง 3 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยสำคัญในการเจริญเติบโตของเด็กเพื่อเป็นประชากรที่มีคุณภาพที่สำคัญ ต้องไม่ลืมว่ายังมีแม่และทารกอีกจำนวนไม่น้อยที่ขาดโอกาสในการถูกเลี้ยงดูด้วยนมแม่พวกเขาจะมีทางเลือกอะไรอีกได้บ้าง

Shares:
QR Code :
QR Code