ขอคนไทยงดเล่นสงกรานต์ ป้องกันโควิด-19
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
แฟ้มภาพ
ขอคนไทยงดจัดงานสงกรานต์ ทุกระดับ ยับยั้งการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) ว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้สั่งการและรัฐบาลได้มีมติ ในแต่ละด้าน ได้แก่ ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ประกอบด้วย มาตรการลดการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้วอย่างต่อเนื่อง
มาตรการเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อได้ดำเนินการจัดหาหน้ากากอนามัยN95 เพิ่มอีก 2 แสนกว่าชิ้น สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งปัจจุบันสามารถอบความร้อนจากรังสี UV-C เพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำได้ 4 ครั้ง ปัจจุบันโควตาหน้ากากอนามัยสำหรับหมอและพยาบาลทั่วประเทศ อยู่ที่ 1.5 ล้านชิ้นต่อวัน ส่วนหน้ากากผ้าสำหรับประชาชนทั่วไป ได้ให้แต่ละชุมชนผลิตเพื่อแจกจ่ายกันเองครบตามเป้าหมายแล้วกว่า 50 ล้านชิ้น ซึ่งถือว่าเพียงพอ
ขณะที่ การนำเข้ายาฟาวิพิราเวียร์ จากประเทศจีนและญี่ปุ่น ที่ผ่านมาดำเนินการไปแล้ว 5 ครั้ง รวม 187,000 เม็ด และอยู่ระหว่างกันจัดหาเพิ่มเติมอีก 200,000 เม็ด นอกจากนี้ การจัดเตรียมเตียงเพิ่มและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น ในการรองรับดูแลผู้ป่วย จำนวน 98 แห่ง ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล หาห้อง ICU เพิ่มอีก 80 เตียง เพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต เร่งมาตรการเยียวยาระยะที่3
ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ล่าสุดรัฐบาลได้ออกมาตรการเพิ่มเติมในระยะที่ 3 โดยเตรียมความพร้อมของประเทศในทุกมิติ เป็นวงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 9-10 ของจีดีพี
ประกอบด้วย 1. การออกพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)ให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา วงเงิน 1 ล้านล้านบาท โดยครอบคลุม 3 แผนงานหลัก
2. การออกพ.ร.ก.ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการ SMEs วงเงิน 5 แสนล้านบาท โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับธนาคารพาณิชย์ ออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ
3. การออกพ.ร.ก.ให้ ธปท.สนับสนุนสภาพคล่องเพื่อดูแลเสถียรภาพตลาดตราสารหนี้ วงเงิน 4 แสนล้านบาท
4. การเตรียมยกร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณ โดยให้หน่วยงานปรับลดไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของวงเงินคงเหลือ โดยครม.จะเร่งเสนอร่างกฎหมายโดยเร็ว และคาดว่าจะทูลเกล้าฯถวายได้ไม่เกินกลางเดือน มิ.ย.
5. ครม.ได้อนุมัติในหลักการ การเพิ่มบุคลากรแพทย์ พยาบาล และข้าราชการของกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลของสถาบันอุดมศึกษา ในสังกัดกระทรวงอุดมศึกษาฯ กว่า 45,000 อัตรา ทั้งในส่วนของอัตราข้าราชการตั้งใหม่ จำนวนกว่า 38,000 อัตรา และอัตราข้าราชการตั้งใหม่ สำหรับนักเรียนแพทย์ ปี 2563 จำนวนกว่า 7,000 อัตรา และ 6. การเพิ่มจำนวนหน่วยใช้ไฟฟ้า ฟรีจาก 50 หน่วยต่อเดือน เป็น 90 หน่วยต่อเดือน สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชน ซึ่งคาดว่าประชาชนได้รับผลประโยชน์ 6.4 ล้านราย
"กรณีการใช้จ่ายงบประมาณเงินกู้ หรืองบประมาณใดก็ตาม ที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาโควิด ในการสาธารณสุข เยียวยา ดูแล ฟื้นฟูประชาชนทุกภาคส่วน จะมีคณะกรรมการพิจารณา ติดตาม กำกับดูแล คัดแยก เพื่อให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผอ.ศบค. และนำเข้า ครม.เพื่ออนุมัติก่อน" นายกฯ กล่าว
ขณะที่ ด้านการต่างประเทศได้มีมาตรการ ชะลอการเดินทางกลับของชาวไทยในต่างประเทศ ออกไปจนถึงวันที่ 18 เม.ย. เนื่องจากข้อเท็จจริงตามสถิติ ชี้ให้เห็นว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกำลังพิจารณามาตรการช่วยเหลือเยียวยา เพื่อลดผลกระทบในระหว่างที่ต้องอาศัยในต่างแดน
"ผมขอให้สัญญาว่า เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง หน้าที่ของผม คือดูแลคนไทยทุกคนทั้งประเทศ ขอให้พวกเราจะสู้ไปด้วยกัน " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
สัปดาห์หน้าเป็นช่วงเทศกาลประเพณีสงกรานต์ แม้ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ประกาศเลื่อนวันหยุดสงกรานต์ แต่ให้ทำงานตามปกติ แล้วจะชดเชยภายหลัง แต่ยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโควิด ดังนั้น รัฐบาลจึงมีแนวทางการปฏิบัติที่สำคัญ ทั้งข้อห้ามและข้อแนะนำ ดังนี้ งดเว้นการจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับ งดเว้นการเดินทางกลับภูมิลำเนา งดเว้นการรดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่ทุกกรณี และงดการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโดยเด็ดขาด