ก.แรงงาน มุ่งให้ผู้สูงวัย 60-69 ปีมีอาชีพ-รายได้

ที่มา : คมชัดลึก


ก.แรงงาน มุ่งให้ผู้สูงวัย 60-69 ปีมีอาชีพ-รายได้เหมาะสม thaihealth


แฟ้มภาพ


ก.แรงงาน ประสาน พลังประชารัฐ ชูแผนชาติ ป้อนงานผู้สูงวัย ที่มีถึง 11.35 ล้านคน มุ่งให้ผู้สูงวัย 60-69 ปีมีอาชีพ มีรายได้เหมาะสม คิกออฟ 6 ก.ค.นี้


พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานภาคีว่า รัฐบาลได้กำหนดกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคนเชิงคุณภาพในทุกช่วงวัย สำหรับผู้สูงอายุ ได้ส่งเสริมให้เป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศ ผ่านการเสริมทักษะการดำรงชีวิต ทักษะอาชีพในการหารายได้ มีงานทำที่เหมาะสมกับศักยภาพ ซึ่งผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) ปัจจุบันมีจำนวน 11.35 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 16.8 ของประชากรทั้งชาติ


โดยแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 มุ่งเน้นให้ผู้สูงอายุวัยเกิน 60-69 ปีมีงานทำ มีรายได้ที่เหมาะสม ขณะเดียวกันแผนผู้สูงอายุแห่งชาติฉบับที่ 2 (พ.ศ.2545-2564) ได้มีมาตรการส่งเสริมด้านการทำงานและหารายได้ของผู้สูงอายุในส่วนของการทำงานเต็มและไม่เต็มเวลาทั้งในระบบและนอกระบบ รวมถึงการฝึกอาชีพและการจัดหางานที่เหมาะสมอีกด้วย     


การประชุมในวันนี้เป็นการร่วมกันพิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนงานในการสร้างงาน สร้างอาชีพ รองรับสังคมสูงวัย โดยในส่วนของกระทรวงแรงงานนั้นมีภารกิจที่ต้องดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ใช้แรงงานทุกช่วงวัย ทั้งในระบบและนอกระบบให้มีงานทำ มีความรู้ ความสามารถ มีรายได้ในการประกอบอาชีพ โดยมีหน่วยงานในสังกัดระดับกรมร่วมกันขับเคลื่อนการมีงานทำให้ผู้สูงอายุคือ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน กำหนดอัตราค่าจ้างรายชั่วโมง MOU สร้างความร่วมมือระหว่างกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริม สนับสนุนและคุ้มครองการจ้างแรงงานผู้สูงอายุ


ส่วน กรมการจัดหางาน บริการจัดหางานผู้สูงอายุ จ้างงานผู้สูงอายุในภาครัฐ สำรวจข้อมูลผู้สูงอายุที่ต้องการประกอบอาชีพหรือทำงาน ส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ สร้างคุณค่าภูมิปัญญาผู้สูงอายุ ส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ 1 อำเภอ 1 ภูมิปัญญา และส่งเสริมการมีงานทำผู้สูงอายุในอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยว ขณะที่ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จะฝึกอบรมแรงงานสูงอายุ เพื่อเพิ่มโอกาสการประกอบอาชีพ และจ้างพนักงานราชการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาฝีมือแรงงาน     


ทั้งนี้ในส่วนของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จะมี พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2560 ที่เอื้อต่อการทำงานของผู้สูงอายุ ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ส่งเสริมสวัสดิการแรงงานสูงอายุเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต พร้อมออกหน่วยเคลื่อนที่เพื่อให้บริการสวัสดิการด้านการดูแลสุขภาพ ขณะเดียวกัน สำนักงานประกันสังคม จะจัดเตรียมการดำเนินการปรับปรุงระบบประกันสังคมและแนวทางการดูแลให้สอดคล้องกับการจ้างงานผู้สูงอายุ


สำหรับประเภทงานที่ผู้สูงอายุทำได้นั้นคือ 1. การทำงานแบบมีนายจ้าง คือ งานบริการ และงานพื้นฐานในอุตสาหกรรมการขายส่ง ขายปลีก อุตสาหกรรมโรงแรมและภัตตาคาร 2. การรับงานไปทำที่บ้าน คืออาชีพที่ทำให้เกิดการสร้างและถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นและศิลปวัฒนธรรมและงานในอาชีพที่ใช้ความสามารถทางฝีมือ 3. อาชีพอิสระ คือ ที่ปรึกษา อาจารย์ งานบริการด้านสาธารณสุขและกฎหมาย งานบริหาร การบริการชุมชน/สังคมและการรวมกลุ่มทำงานต่างๆ ที่ไม่ต้องพึ่งการจ้างงานจากนายจ้าง 


ทั้งนี้ ลักษณะงานที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุคืองานที่ทำไม่เต็มเวลา งานที่สามารถปรับเปลี่ยนเวลาในการทำงาน  ปัจจุบันข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า มีผู้สูงอายุประกอบอาชีพเกษตรและประมง ร้อยละ 56.5 พนักงานบริการและจำหน่ายสินค้า ร้อยละ 19.6 ช่างฝีมือและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องร้อยละ 8.6 และประกอบอาชีพอื่นๆ ร้อยละ 7.20


รมว.แรงงาน กล่าวในตอนท้ายว่า การประชุมในวันนี้เป็นรูปแบบประชารัฐ โดยทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดเป็นรูปธรรม ซึ่งกระทรวงแรงงานมีกำหนด Kickoff ส่งเสริมการมีงานทำให้แก่ผู้สูงอายุในวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 ที่จังหวัดนครราชสีมา


"ซึ่งในวันนั้นจะเป็นการส่งตัวผู้สูงอายุเข้าทำงานในสถานประกอบการ มีกิจกรรมส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ กิจกรรมการฝึกทักษะฝีมือแรงงาน การให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน มีการรับชิ้นงานของผู้สูงอายุไปทำที่บ้าน และให้บริการสวัสดิการด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งหากผู้สูงอายุใดประสงค์จะทำงานหรือสถานประกอบการใดประสงค์จะรับผู้สูงอายุเข้าทำงาน"รมว.แรงงาน กล่าวในที่สุด

Shares:
QR Code :
QR Code