ก้าวย่างตามรอยบาท ด้วยศาสตร์พระราชา
ที่มา : แฟนเพจสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม
ภาพประกอบจากแฟนเพจสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม
หลักปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงชี้แนวทางให้แก่ปวงชนชาวไทยในดำเนินชีวิตภายใต้ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ตามกระแสโลกาภิวัตน์ นั่นคือ การพึ่งพาตนเอง ลดการพึ่งพาผู้อื่น อันเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งพิสูจน์ให้แก่ผู้ที่น้อมนำไปใช้แล้วว่า ได้ผลจริง
โครงการ “ก้าวย่างตามรอยบาท ด้วยศาสตร์พระราชา” เพื่อสร้างเยาวชนแกนนำให้มีองค์ความรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเข้าใจและลึกซึ้ง จนสามารถนำไปขยายผลในชุมชน โดย สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง สังกัดมหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
“การก้าวเดินตามแบบที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานไว้ ทำให้เราสามารถอยู่รอดภายใต้วิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้จริง” ธนานันท์ เหล็กเกตุ หัวหน้าสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง พูดอย่างเชื่อมั่น พร้อมทั้งอธิบายถึง ความพอเพียง ประกอบด้วย 3 คุณลักษณะ คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติสามารถปรับตัวได้เข้ากับทุกสถานการณ์ เช่นคำว่า “พอกิน” อาหารคือสิ่งจำเป็นที่เราต้องกินทุกวัน ก็ปลูกเองกินเองได้ แต่คนส่วนใหญ่มักจะซื้อกิน หรือ “พอใช้” คือ อะไรที่ใช้ทุกวัน ก็ทำเองบ้างก็ได้ เช่น สบู่ ยาสระผม น้ำยาเอนกประสงค์ เป็นต้น
“สิ่งสำคัญสุด คือจะทำอะไรให้มองจากความต้องการของตัวเอง ทำเพื่อตัวเองให้พออิ่ม เมื่ออิ่มแล้ว จึงเผื่อแผ่คนอื่น ท้ายที่สุดจึงนึกถึงเรื่องการขาย นี่คือเศรษฐกิจพอเพียง แบบนี้ถึงจะอยู่รอด” ธนานันท์ กล่าว
เศรษฐกิจพอเพียงจึงไม่มีอะไรเป็นมาตรฐาน สามารถปรับเปลี่ยนตามสภาพบริบทและสภาพแวดล้อมได้ อย่างคนรวยสามารถเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปเป็นกรอบในการดำเนินชีวิตได้ ก็มีความสุขในกรอบของคนรวย คนจนก็มีความสุขในแบบคนจน ดังนั้นจึงเอามาตรฐานความสุขมาวัดด้วยกันไม่ได้